ราคาทองแดงร่วงหลังจากข้อมูลโรงงานจีนที่อ่อนแอ ราคาทองคำทรงตัว

โดย Ambar Warrick

Investing.com - ราคาทองแดงร่วงลงในวันจันทร์หลังจากข้อมูลโรงงานของจีนที่อ่อนแอชี้ให้เห็นถึงความต้องการโลหะที่ชะลอตัวในขณะที่ราคาทองคำทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์

ในเวลา 01.13 GMT สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง ลดลง 1.2% เป็น 3.5503 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปี

ตัวเลข ผลผลิตโรงงานในจีน หดตัวลงอย่างมากในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19 หลังจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) อย่างเป็นทางการ อยู่ที่ 49 ในเดือนกรกฎาคม ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 50.4 และตัวเลขในเดือนมิถุนายนที่ 50.2

ในขณะที่กิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมของประเทศยังคงอยู่ในการขยายตัว การผลิตที่ลดลงไม่เป็นผลดีสำหรับการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ โดยอุปสงค์ของจีนในตลาดแร่เหล็กและโลหะพื้นฐานทั่วโลกนั้นคิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ และราคาน้ำมันก็ร่วงลงเช่นกันหลังการเปิดเผยของข้อมูล

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสังกะสี ร่วงลง 0.2% หลังรายงานเผยแพร่ โดยมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 20.163 ดอลลาร์ ในวันจันทร์

วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวของจีนยังชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันต่อราคาทองแดงและแร่เหล็กในปีนี้ เนื่องจากมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคส่วนนี้

แม้ว่าราคาโลหะจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้จากอุปทานที่ตกต่ำ แต่เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ราคาโลหะก็ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายต่อความต้องการโลหะตลอดช่วงที่เหลือของปี เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปเพิ่งระบุความเสี่ยงจากภาวะถดถอยในปี 2022

ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงเรื่อย ๆ ราคาทองคำได้ทรงตัวหลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในสัปดาห์ที่แล้ว สปอตทองคำ XAU/USD ซื้อขายที่ 1,763.64 ดอลลาร์ต่อปอนด์ในวันจันทร์ ลดลงเล็กน้อยจากการปิดครั้งก่อน

โลหะมีค่าอื่น ๆ ก็คงที่เช่นกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำขาว ซื้อขายที่ 889.90 ดอลลาร์ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเงิน ส่วนใหญ่ทรงตัวที่ 20.145 ดอลลาร์อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดโลหะจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะถูกปรับขึ้นอีกในปี 2022

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานในสัปดาห์ที่แล้ว และกล่าวว่ามีแนวโน้มที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอีกหากตัวเลขเงินเฟ้อยังทะยานขึ้นสูง