เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปี หุ้นสหรัฐโดนเทขาย นักลงทุนถือดอลลาร์เพิ่ม

ค่าเงินบาท วันนี้อ่อนค่าสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ในวันพุธช่วงเช้า โดยซื้อขายอยู่ที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในระยะสั้นค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง จากปัจจัยภายนอกอย่างการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสูงจนน่าตกใจ ล่าสุดอยู่ที่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ในคืนที่ผ่านมามีการเทขายหุ้นในตลาดสหรัฐอย่างหนัก ดัชนี S&P 500 ปิดตลาด ลดลง 2.0% จากความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง ในขณะที่เงินเฟ้อกำลังจะมาถึง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากเป็นสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนจึงหันมาถือเงินดอลลาร์มากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อรับมือกับความผันผวนในตลาด

นอกจากนี้ประเด็นความกังวลต่อวิกฤติหนี้สินของ China Evergrande บริษัทพัฒนาอสังหายังคงมีอยู่ บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรในวันพุธ แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าสามารถชำระได้ โดยกำหนดชำระของอาทิตย์ที่ผ่านมายังไม่มีรายละเอียดว่าได้ชำระตามกำหนดการณ์เช่นกัน นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ต่อไปด้วยความระมัดระวัง

สำหรับวันนี้ จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ว่าจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% หรือไม่ หลังแนวโน้มการระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงในบางส่วน รัฐบาลเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของ GDP ปัจจัยดังกล่าวอาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ หากต้นปีหน้าประเทศไทยสามารถรับนักท่องเที่ยวเข้ามา เราอาจเห็นการสนับสนุนเศรษฐกิจจากรัฐบาลมากขึ้น

สถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยวันนี้ ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10,414 ราย เสียชีวิต 122 ราย