简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เมื่อปี 2540 “ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ” คือหนึ่งในนักลงทุนที่ได้รับผลกระทับอย่างหนัก จนถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย มีหนี้สินติดตัวนับพันล้าน แต่เขาไม่ยอมแพ้กับชะจาชีวิต ผันตัวมาเป็นพ่อค้าขายแซนด์วิชข้างถนน และกลับมายืนอย่างสง่างามได้อีกครั้งด้วย “ศิริวัฒน์แซนด์วิช”
นอกจากวิกฤตจากโรคระบาดอย่างโควิด-19 ไทยเราเคยผ่านวิฤตทางเศรษฐกิจมาหลายครั้ง ครั้งที่ลืมไม่ลงเลยคงหนีไม่พ้นวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 “ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ” คือหนึ่งในนักลงทุนที่ได้รับผลกระทับอย่างหนัก จนถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย มีหนี้สินติดตัวนับพันล้าน แต่เขาไม่ยอมแพ้กับชะจาชีวิต ผันตัวมาเป็นพ่อค้าขายแซนด์วิชข้างถนน และกลับมายืนอย่างสง่างามได้อีกครั้งด้วย “ศิริวัฒน์แซนด์วิช”
จากชีวิตที่แสนสบายฐานะครอบครัวมหาเศรษฐี ศิริวัฒน์ จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา กลับมาเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์เอเชียจำกัด ทำกำไรหลายพันล้านให้กับบริษัทมากมาย ก่อนจะเกิดวิกฤตฟองสบู่ ไทยถูกมองว่าเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย ทุกคนใช้เงินลงทุนกันเพลิน เมื่อคิดใหญ่แล้วเงินไม่พอก็ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศซึ่งสามารถกู้ได้โดยตรงไม่ผ่านแบงค์ แถมดอกเบี้ยน้อยกว่าในประเทศ ก็เลยแห่กันไปกู้เงินจำนวนมากมาทำธุรกิจ ศิริวัฒน์ คิดทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมหรู ที่เขาใหญ่ ช่วงเวลานี้เองทำให้ชีวิตเขาต้องพลิกผัน “ผมกู้เงินลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมที่เขาใหญ่ห้องละ 5 ล้าน ขายเฉพาะคนรวยเท่านั้น ใช้การลงทุนในตลาดหุ้นแบบมาร์จิน (Margin) อธิบายง่าย ๆ คือ กู้เงินมาลงทุน พอหุ้นตกก็ถูกบังคับขาย (Forced Sell) พอขายหุ้นจนหมดที่เหลือก็คือหนี้ ดอกเบี้ยก็เดินไปเรื่อย ๆ พอเศรษฐกิจมีปัญหา คอนโดที่ผมขายถูกลูกค้าทิ้งเงินดาวน์ ผมก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งเศรษฐกิจตอนนั้นจะไปขายใครก็ไม่ได้ สุดท้ายจากหนี้ไม่กี่ล้านกลายเป็นพันล้าน”
“มันเป็นบทเรียนที่เจ็บปวด ไม่รู้จักพอเพียงและเราโลภ เรามีความมั่นใจในตัวเองสูง ว่าทำอะไรก็สำเร็จหมด ไม่ได้เผื่อเอาไว้เลย” สุดท้ายศาลสั่งให้เขาเป็นบุคคลล้มละลาย เขาตั้งสติและยืนยันกับตัวเองจะไม่หนีปัญหาด้วยวิธีฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะภาระหนี้สินต้องตกอยู่กับภรรยา และลูกทั้ง 3 คนที่ยังเล็กมาก สิ่งแรกที่ต้องทำเลย คือ ทำใจว่าชะตาชีวิตมันผันแปรได้ อย่าไปยึดติด พอทำใจได้ เราจะรู้เองว่าสามารถทำอะไรต่อไปได้บ้าง ตอนนั้นทุนก็ไม่มี คิดว่าจะทำอะไรที่ได้เงินมาเลี้ยงลูกน้องได้ ก็ปรึกษากับภรรยาเลยคิดกันว่าต้องทำอาหารขาย ตอนนั้นคิดง่ายๆ เลย เพราะยังไงคนเราก็ต้องกิน แต่ด้วยความที่เราไม่มีองค์ความรู้อะไร เปิดร้านอาหารก็ต้องลงทุนเยอะ ถ้าขายดีกุ๊กลาออกก็แย่อีก
เลยคิดกันว่าทำแซนด์วิชละกัน แค่ซื้อขนมปัง แฮม ชีสมาประกอบกันก็ขายได้แล้ว ก็ลงมือทำกัน เช่าทาวน์เฮ้าส์เล็ก ๆ เป็นทั้งออฟฟิศและที่ทำแซนด์วิชไปด้วย ใช้ชื่อว่า ศิริวัฒน์แซนด์วิช' ทีแรกขายอยู่ในโรงพยาบาลกรุงเทพฯ อย่างเดียวเป็นเคาน์เตอร์ แต่รายได้ไม่พอ เราเลยขยับขยายให้พนักงานออกไปยืนขายตามจุดต่างๆ เพราะทุนเรามีไม่มาก และวิธีนี้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากด้วย เช้าขายคนทำงานแถวออฟฟิศเยอะๆ ระหว่างวันขายที่แบงค์ บ่ายขายหน้าโรงเรียน แรก ๆ ก็ขายได้ไม่เท่าไหร่ เพราะแซนด์วิชเราแพง คนอื่นขาย 8-10 บาท แต่ของเราขาย 25-30 บาท นั่นเพราะเราใช้ของดี จนเขาซื้อไปลองชิมก็เกิดการบอกต่อปากต่อปาก ภาพที่ทุกคนจดจำเขาได้คือผู้ชายวัย 48 ปี แขวนกล่องสีเหลือง ด้านบนมีแซนด์วิช เร่ขายริมถนนย่านธุรกิจต่างๆ ในกรุงเทพ จนแซนด์วิชของเขาเป็นที่รู้จักติดตลาด และเขายังเป็นบุคคลหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนที่คิดท้อแท้กับชีวิต
นอกจากการเลือกใช้ของดี สิ่งหนึ่งที่ศิริวัฒน์คิดว่าสร้างชื่อเสียงให้กับแซนด์วิชของเขา คือ การที่เขากล้าเปิดเผยตัวตน ยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนทำให้เป็นที่สนใจของสื่อต่างๆ “ผมยอมรับว่าผมเจ๊งแล้ว เปิดเผยตัวเลย จนมายืนขายของข้างถนน สื่อต่าง ๆ เขาเลยสนใจทั้งไทยและต่างประเทศ ทำให้คนรู้จักเยอะ ประชาชนที่เห็นข่าวแรก ๆ แรกอาจมาซื้อเพราะสงสาร แต่ด้วยความที่ของเราดีจริง เขาเลยกลับมาซื้ออีก ซึ่งผมว่าตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราซื่อสัตย์กับลูกค้า เขาก็อยู่กับเรา เคยมีคนถามผมว่าคุณรู้ได้ยังไงว่าขายแซนด์วิชข้างถนนแล้วจะได้เกิด ผมตอบไปว่าไม่รู้ แค่ทำให้ดีที่สุด”
จากแซนด์วิชที่โด่งดัง ขยายผลให้ธุรกิจอื่นตามมา จากการพยายามรักษาคุณภาพและใช้ของดีมาตลอด ทำให้สินค้าอื่นติดตลาดได้ไม่ยาก ไม่น่าเชื่อว่า ผ่านมา 20 ปีวันนี้ศิริวัฒน์ลุกขึ้นสู้จนสามารถปลดหนี้พันล้านบาทได้สำเร็จ พ้นจากสถานะบุคคลล้มละลาย กลายเป็นตำนานคนสู้ชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนนับล้าน นี่เป็นบทเรียนอันล้ำค่าจากชีวิตจริง ถ้าวันนั้นเขาเลือกที่จบชีวิต หันหลังให้กับปัญหา ก็คงไม่มีวันที่ยิ่งใหญ่แบบวันนี้ และการต่อสู้ของ “ศิริวัฒน์แซนด์วิช” คือผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดของการ “ไม่ยอมแพ้”
หากนี่คือหนึ่งบทเรียนที่คุณประทับใจ WikiFX ยังมีบทเรียนแห่งแรงบันดาลใจอีกมากมายจากนักทุนทั่วโลก รอคุณอยู่ ดาวน์โหลดแอป WikiFX เพื่อรับการแจ้งเตือนบทความเหล่านี้ พร้อมข่าวสารการเงินทั่วโลกได้ฟรี โหลดเลยตอนนี้!
อย่าตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์ Forex เถื่อน! เพราะโบรกเกอร์ Forex เถื่อนชอบโกงเงินนักลงทุน คุณต้องดาวน์โหลด WikiFXเพื่อตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ Forex ใดควรเทรดด้วย ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง ดาวน์โหลดฟรี!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ