简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:คดี THE iCON GROUP เป็นที่สนใจในสังคม เมื่อมีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเปิดเผยว่าถูกหลอกลวงให้ลงทุนจนสูญเงินมหาศาล โดยบริษัทใช้โฆษณาชวนเชื่อและดาราสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยกลางคน ผู้เกษียณ และนักศึกษาจบใหม่ให้เข้าร่วมคอร์สเรียนและลงทุนในสินค้าด้วยเงินจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถขายสินค้าได้จริง เกิดความเสียหายอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกรณีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่มีกลยุทธ์ดึงคนดังและการหาดาวน์ไลน์เพื่อล่อลวงเหยื่อเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมอย่างชัดเจน ผู้ลงทุนควรมีความรู้และตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อ.
คดีที่ดังที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นคดีของ THE iCON GROUP ที่ผู้เสียหายออกมาร้องเรียนเป็นจำนวนมาก เสียเงินเป็นแสน บางรายสูญเป็นล้าน สิ้นเนื้อประดาตัว แม้ “บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง THE iCON GROUP จะออกมายืนยันความบริสุทธิ์ แต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับ 18 ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ในข้อหา “ร่วมฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ” โดยคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในจำนวนผู้ต้องหาคดีนี้ ยังมีดาราทั้งสามท่านคนที่คุณรู้ว่าใครคุมตัวไปด้วย ซึ่งตอนนี้คดียังไม่จบนะครับเรายังต้องรอข้อเท็จจริงจากการสืบสวนอยู่ แต่จากกรณีนี้แอดเหยียวจึงอยากจะชวนเพื่อนๆ ย้อนเวลาไปดูอีกเคสคดีหนึ่งที่เหล่านักเทรดรู้จักกันดีอย่างคดี Forex-3D ที่มีดาราโดนจับเหมือนกัน นอกจากนี้ก็ยังมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายมหาศาลเหมือนกัน แต่คดีประเภทนี้พึ่งผ่านไปได้ไม่นานก็กลับมาขยี่ใจคนไทยอีกครั้ง แล้วจะมีบทเรียนไหนบ้างที่คนไทยต้องจดจำตามแอดเหยี่ยวมาเลยครับ
.
THE iCON GROUP หลอกขายฝัน
จุดเริ่มต้นของการดึงดูดความสนใจผู้คนเกิดจากการยิงโฆษณาที่ชวนเชื่อว่า “อยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้เงินแสน” โดยการเข้าร่วมคอร์สเรียนกลยุทธ์การขายผ่าน TikTok และ Facebook ในราคาเริ่มต้นเพียง 97-99 บาท บางคอร์สเรียนฟรี 3 วัน ซึ่งระหว่างการเรียนจะมีการพูดจาหว่านล้อม พร้อมยกกรณีศึกษาของผู้ที่ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ ยังมีการดึงดาราและคนดังเข้ามาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกฮึกเหิมจนยอมลงทุนเปิดบิลเริ่มต้นที่ 2,500 บาท สำหรับร้านค้าขนาดเล็ก หรือสูงถึง 250,000 บาทสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยกลางคน, ผู้เกษียณ และนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการสร้างโอกาสใหม่ให้กับตัวเอง
ข้อมูลจากผู้เสียหายระบุว่า ในระยะหลัง แม่ทีมจะเริ่มพูดโน้มน้าวให้หาคนมาต่อสาย โดยมีกฎว่า “ไม่มีไม่ได้” ถ้าอยากมีชีวิตใหม่ ต้องเอาชีวิตเก่ามาแลก พวกเขาจะสะกดจิตให้เหยื่อกู้เงินมาลงทุน ใช้บัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งขายบ้านและรถ สุดท้าย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อใช้เงินไปกับการยิงโฆษณา แต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ สินค้ากลายเป็นค้างสต็อก ขณะที่บริษัทบอกว่า “ไม่ต้องกลัวขายไม่ได้” ทำให้เหยื่อเกิดความเครียดเมื่อสินค้าขายไม่ออก และบางรายตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
.
แชร์ลูกโซ่ “Forex-3D”
Forex เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนที่ต้องการเข้ามาเล่นจำเป็นต้องมีความรู้ลึกซึ้งและเข้าใจภาวะเศรษฐกิจโลก เนื่องจากไม่มีสถาบันการเงินในไทยที่รองรับการลงทุนในรูปแบบนี้ นักลงทุนต้องไปทำการเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ แม้ว่า Forex จะมีศักยภาพในการทำกำไรสูง หากนักลงทุนสามารถเก็งกำไรสกุลเงินได้อย่างแม่นยำ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งที่มิจฉาชีพใช้หาช่องโหว่ในการหลอกลวง โดยใช้ระบบ “ดาวน์ไลน์” และมีการจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกที่สามารถหาผู้ลงทุนใหม่ได้
กรณีของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ซึ่งมีภาพลักษณ์ของซีอีโอที่ร่ำรวย ได้จัดอีเวนต์ดึงดูดคนดังเข้ามาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อถูกจับได้ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เขาจึงถูกจับกุม และคนดังที่เข้าร่วมก็ถูกดึงไปด้วย เช่น พิ้งกี้ สาวิกา, ดีเจแมน พัฒนพล และใบเตย อาร์สยาม ที่ต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงและปฏิเสธว่าไม่เคยหาดาวน์ไลน์ ทำให้ความน่าเชื่อถือของพวกเขาสูญเสียไปไม่น้อย
สามารถอ่านบทความของคดี Forex-3D ได้เพิ่มเติมคลิกเลย https://www.wikifx.com/th/tag/tag.html?tag=Forex3D
.
บทเรียนที่ได้คือ?
คดี THE iCON GROUP และ Forex-3D บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนที่ผู้คนควรตระหนักรู้ โดยเฉพาะในยุคที่มีการโฆษณาชวนเชื่อที่ดึงดูดใจ เช่น การอ้างว่า “อยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้เงินแสน” ผ่านคอร์สเรียนที่มีราคาถูกและโฆษณาที่สร้างแรงจูงใจ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มองหาวิธีสร้างรายได้เสริม อย่างวัยกลางคน ผู้เกษียณ และนักศึกษาจบใหม่ รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ด้วยการดึง“คนดัง”เข้ามาร่วมในธุรกิจเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อาจทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกมั่นใจ กล้าที่จะลงทุนมากขึ้น
ทั้งสองกรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่สูงในการลงทุนกับธุรกิจที่ไม่มีการควบคุมที่ชัดเจน นักลงทุนควรมีความรู้และความเข้าใจในธุรกิจที่เข้าร่วม และต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัทอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
การเทรด Forex หรือแม้กระทั่งธุรกิจขายตรงเป็นเพียงช่องว่างทางกฎหมาย ที่มิจฉาชีพใช้หลอกล่อเหยื่อเท่านั้น บทเรียนที่สำคัญจากคดีนี้คือ ผู้ลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงและมีสติในการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในอนาคต และควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุน คำนี้ใช้ได้ทุกวงการไม่เกินจริง แอดเหยี่ยวและ WikiFX ขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการตรวจสอบโบรกเกอร์ เพื่อช่วยให้เหล่านักเทรดที่ฝึกฝนและศึกษามาเป็นอย่างดี ได้ใช้โบรกเกอร์ที่ดี และไม่ตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์เถื่อน รวมถึงการช่วยให้นักเทรดได้เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับตัวเอง เพียงตรวจสอบง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน WikiFX สามารถดูวิธีการตรวจสอบโบรกเกอร์ได้ คลิกบทความนี้เลย https://www.wikifx.com/th/newsdetail/202409104304646387.html
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎของ 72 เป็นสูตรที่เรียบง่าย แต่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้ว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า ภายในเวลากี่ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนรายปีที่กำหนด หรือหากนักเทรดรู้ระยะเวลาที่เงินจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว กฎนี้ยังช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่คุณต้องการได้ด้วย
พีระมิดการลงทุนไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนได้อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการวางแผนและจัดการพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมาย พร้อมทั้งศึกษาและเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ทองคำ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
Vantage
TMGM
IC Markets Global
FXTM
FBS
HFM
Vantage
TMGM
IC Markets Global
FXTM
FBS
HFM
Vantage
TMGM
IC Markets Global
FXTM
FBS
HFM
Vantage
TMGM
IC Markets Global
FXTM
FBS
HFM