简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการเทรด Forex ถือเป็นรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีตามข้อกำหนดของกฎหมาย
ในฐานะคนไทยการจ่ายภาษีในแต่ละปีก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญ โดยเรื่องนี้ก็น่าจะรู้กันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนที่จะรู้ว่ารายได้จากการเทรดหรือการลงทุน ต้องนำไปเสียภาษีด้วย เรื่องนี้สำคัญแอดเหยี่ยวไม่อยากให้นักเทรดทุกคนพลาด บทความนี้นะครับ ไม่งั้นโดนจ่ายย้อนหลังเยอะกว่าเดิมได้นะ วันนี้เรามาทำความรู้จักภาษี Forex ใครบ้างต้องเสีย และต้องคำนวนภาษี Forex อย่างไร แอดเหยี่ยวรวมมาให้แล้ว อย่าเสียเวลาไปเริ่มกันเลยครับ
ภาษี Forex คืออะไร ?
คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการเทรด Forex เป็นเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์ชาวไทยควรศึกษาอย่างยิ่ง เนื่องจากทุกคนในประเทศไทยมีหน้าที่ต้องชำระภาษีตามกฎหมาย และกำไรจากการเทรด Forex ถือเป็นรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีตามข้อกำหนดของกฎหมายครับ
Forex จัดเป็นเงินได้ประเภทไหน ?
กำไรหรือผลตอบแทนจากการเทรด Forex ถือเป็นรายได้ประเภทที่ 4 ภายใต้ภาษีเงินได้พึงประเมิน ซึ่งผู้เทรดจำเป็นต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีภาษีถัดไป นอกจากนี้ เทรดเดอร์ควรศึกษาประเภทของรายได้อื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษี เพื่อการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ โดยรายละเอียดของประเภทเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามที่กรมสรรพากรกำหนด มีดังนี้ครับ
เงินได้ประเภทที่ 1 เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานและเงินเดือน ค่าจ้าง รวมถึงโบนัส
เงินได้ประเภทที่ 2 เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้
เงินได้ประเภทที่ 3 ค่าแห่งกู๊ดวิลล์, ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น
เงินได้ประเภทที่ 4 ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร เงินลดทุน
เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินหรือเงินจากการผิดสัญญาเช่า
เงินได้ประเภทที่ 6 เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น วิชาชีพด้านกฎหมาย, สถาปัตยกรรม, วิศวกรรม หรือการบัญชีเป็นต้น
เงินได้ประเภทที่ 7 เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาจะต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ
เงินได้ประเภทที่ 8 เงินได้จากการทำธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 7 แล้ว
ใครบ้างต้องเสียภาษี Forex
สำหรับผู้ที่ต้องเสียภาษีจากการเทรด Forex คือกลุ่มเทรดเดอร์ที่ทำกำไรจากการลงทุนใน Forex และมีเงื่อนไขดังนี้: ต้องมีรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ และต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกิน 6 เดือน หรือ 180 วัน นอกจากนี้ยังต้องได้รับเงินหรือนำเงินเข้ามาในประเทศผ่านการโอนหรือทำธุรกรรมผ่านธนาคารในประเทศไทยอีกด้วย
ตารางอัตราการคำนวณภาษี Forex สำหรับเทรดเดอร์
เทรดเดอร์ที่มีรายได้จากการเทรด Forex หลังจากหักกำไรขาดทุนแล้ว จะต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีภาษี เพื่อประเมินภาษีที่ต้องจ่ายตามรายได้จากการเทรด Forex โดยจะต้องใช้ตามอัตราภาษีที่กำหนดดังนี้:
โดยที่การคำนวณภาษี Forex จะเป็นการคำนวณแบบขั้นบันได ซึ่งสามารถศึกษาตัวอย่างการคำนวณภาษีได้ในหัวข้อถัดไปครับ
ตัวอย่างการคำนวณภาษี Forex
การคำนวณภาษี Forex จะใช้กำไรสุทธิหลังจากหักขาดทุน โดยมีตัวอย่างดังนี้:
นาย A มีรายได้จากการเทรด Forex ในปี 2566 รวมเป็นเงิน 375,000 บาท และมีต้นทุนรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งสิ้น 20,000 บาท
รายได้สุทธิของนาย A: 375,000 – 20,000 = 355,000 บาท
การคำนวณภาษีในแต่ละช่วง:
รายได้สุทธิ 0 – 150,000 บาท (ได้รับยกเว้น) = 0 บาท
รายได้เกิน 150,001 – 300,000 บาท เสียภาษีอัตรา 5% = 7,500 บาท
รายได้เกิน 300,001 – 355,000 บาท (ส่วนเกิน 55,000 บาท) เสียภาษีอัตรา 10% = 5,500 บาท
ดังนั้น นาย A จะต้องเสียภาษีรวมสุทธิเป็นจำนวน: 7,500 + 5,500 = 13,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก Gotradehere
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎของ 72 เป็นสูตรที่เรียบง่าย แต่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้ว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า ภายในเวลากี่ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนรายปีที่กำหนด หรือหากนักเทรดรู้ระยะเวลาที่เงินจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว กฎนี้ยังช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่คุณต้องการได้ด้วย
พีระมิดการลงทุนไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนได้อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการวางแผนและจัดการพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมาย พร้อมทั้งศึกษาและเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ทองคำ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
OANDA
Pepperstone
FxPro
EC Markets
TMGM
Vantage
OANDA
Pepperstone
FxPro
EC Markets
TMGM
Vantage
OANDA
Pepperstone
FxPro
EC Markets
TMGM
Vantage
OANDA
Pepperstone
FxPro
EC Markets
TMGM
Vantage