简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วิธีเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับใช้เทรด forex จอมอนิเตอร์ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดี รูปทรงที่สวยงาม หรือส่วนประกอบที่หรูหราอาจไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพดีเสมอไป มีคุณสมบัติอื่นๆ ที่นักเทรดควรให้ความสำคัญซึ่งมีความจำเป็นต่อการใช้งานมากกว่า
นอกจากการเก่งกลยุทธ์หรือการใช้เครื่องมือต่างๆเป็น ก็ยังมีอีกสิ่งเล็กๆที่นักเทรดไม่ควรมองข้ามไป นั่นคือจอมอนิเตอร์เพราะนักเทรดหลายคนในตลาดใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการเฝ้ากราฟราคา Forex ผ่านจอมอนิเตอร์เพื่อหาจังหวะและเงื่อนไขที่ดีที่สุด แอดเหยี่ยวจึงอยากจะช่วยแนะนำคุณสมบัติที่สำคัญและข้อควรรู้ในการเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับนักเทรดครับ
วิธีเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับใช้เทรด forex
จอมอนิเตอร์ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดี รูปทรงที่สวยงาม หรือส่วนประกอบที่หรูหราอาจไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพดีเสมอไป มีคุณสมบัติอื่นๆ ที่นักเทรดควรให้ความสำคัญซึ่งมีความจำเป็นต่อการใช้งานมากกว่า ดังนี้:
1.ขนาดของจอมอนิเตอร์
ขนาดของจอมอนิเตอร์เป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา และแน่นอนว่าขนาดของหน้าจอนั้น เป็นความต้องการส่วนบุคคลของเทรดเดอร์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม การเลือกจอที่มีขนาดความกว้างอยู่ที่ 23 ถึง 28 นิ้ว เป็นขนาดจอที่เหมาะสม แต่ถ้าท่านต้องการอะไรที่ใหญ่กว่านั้น จอมอนิเตอร์ขนาด 43 นิ้ว ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี แต่ต้องมั่นใจว่าขนาดห้องของท่านเหมาะกับจอที่มีขนาดใหญ่
2.ความละเอียดในการแสดงผล
ความละเอียดในการแสดงผลของจอเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจรณา จอที่มีความละเอียดในการแสดงผลสูงจะให้ภาพที่ชัดเจน พูดง่ายๆ ความคมชัดของภาพนั้นจะทำให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำในการอ่านกราฟต่างๆ และข้อมูลส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน
เทรดเดอร์มืออาชีพมักใช้จอที่มีความละเอียดระดับ 4K เพื่อภาพที่คมชัดระดับ Full-HD แต่สำหรับนักเทรดที่พึ่งเริ่มต้น การเริ่มต้นด้วยหน้าจอขนาด 2K ก็ถือว่าเหมาะสม
3.การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ
คุณสมบัตินี้จะทำให้ท่านมั่นใจเกี่ยวกับความยืนหยุ่นในการเทรดที่มากยิ่งขึ้น บางครั้งท่านอาจต้องเชื่อมต่ออุปการณ์ต่างๆ เข้ากับจอมอนิเตอร์ เช่น สายเคเบิล HDMI หรือสาย VGA เพื่อความสะดวกในการเชื่อต่อกับ Laptop การเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ อย่างเข้าด้วยกันจะทำให้การเทรดของท่านมีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม
ผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของจอมอนิเตอร์เช่นเดียวกัน อาจรวมไปถึงพอร์ทการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น ลำโพง หรือความคมชัดของจอด้วยเช่นกัน
4.อัตราส่วนความคมชัด
คุณสมบัตินี้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของจออย่างเลี่ยงไม่ได้ จอที่มีอัตตราส่วนความคมชัด หมายถึง สัดส่วนของสีดำที่มีความเข้มมากๆ ซึ่งจะสามารถแสดงสัญญาณภาพที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างมากหากท่านเทรดอยู่ในที่มืด
5.ค่าความเร็วของการตอบสนองของจอมอนิเตอร์
หรือที่ผู้ใช้งานมักเรียกกันว่า “รีเฟชรเรท” โดยปกติจอมอนิเตอร์จะมีอัตราในการรีเฟชรหน้าจอทุกๆ 1 วินาที ยิ่งมีค่ารีเฟชรเรทที่สูงขึ้น ภาพที่แสดงออกมาจะมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาเดียวก็คือจอมอนิเตอร์ที่มีอัตรารีเฟรชสูงก็มักจะมีราคาแพงเช่นกัน ดังนั้น สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการเลือกจอมอนิเตอร์ที่มีอัตรารีเฟชรอยู่ระหว่าง 60Hz and 75Hz ก้ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
6.มุมมองของจอมอนิเตอร์
คุณสมบัตินี้จะเป็นตัวกำหนดมุมมองที่ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นหน้าจอมอนิเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจน โดยทั่วไปคุณภาพของการแสดงผลจะแย่ลงหากมุมมองของจอมอนิเตอร์นั้นกว้างขึ้น ดังนั้นท่านต้องมั่นใจว่าจอมอนิเตอร์ที่ใช้มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นของผู้ใช้งาน โดยฟีเจอร์นี้จะชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการใช้งานจอมอนิเตอร์ 2 จอพร้อมกัน
7.กลศาสตร์ของจอมอนิเตอร์
กลศาสตร์ของจอมอนิเตอร์ถือเป็นอีก 1 สิ่งสำคัญกับประสบการณ์เทรด นอกจากคุณภาพของการแสดงผลที่ดี จอมอนิเตอร์ควรจะมีคุณภาพในการถนอมสายตาอีกด้วย การถนอมดวงตาเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับเทรดเดอร์ Full-time ที่ใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงในระหว่างการเทรดแต่ละวัน ดังนั้น จอมอนิเตอร์ที่ดีจะมาพร้อมเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการป้องกันแสง และลดความเหนื่อยล้าของดวงตาผู้ใช้งานอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก mtrading
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎของ 72 เป็นสูตรที่เรียบง่าย แต่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้ว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า ภายในเวลากี่ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนรายปีที่กำหนด หรือหากนักเทรดรู้ระยะเวลาที่เงินจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว กฎนี้ยังช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่คุณต้องการได้ด้วย
พีระมิดการลงทุนไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนได้อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการวางแผนและจัดการพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมาย พร้อมทั้งศึกษาและเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ทองคำ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
XM
STARTRADER
Octa
Tickmill
FBS
FP Markets
XM
STARTRADER
Octa
Tickmill
FBS
FP Markets
XM
STARTRADER
Octa
Tickmill
FBS
FP Markets
XM
STARTRADER
Octa
Tickmill
FBS
FP Markets