简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โปรแกรมหนึ่งที่ "จำลอง" สภาพตลาดจริงขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เทรดเดอร์ได้ทดลองเทรดหุ้นและฝึกการใช้กลยุทธ์และฝึกเทรดหุ้นด้วยเงินจำลองก่อนที่จะไปลงสนามในตลาดจริง โปรแกรมจำลองบางตัวจะใช้อัลกอริธึมแบบง่ายๆ ในการเลียนแบบกิจกรรมของตลาดแบบกว้างๆ และบางตัวจะแสดงข้อมูลตลาดจริงซึ่งทำให้ได้ประสบการณ์การเทรดในตลาดที่สมจริงกว่า
มือใหม่ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมจำลองการเทรด เพื่อฝึกฝนสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จอยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน แอดเหยี่ยวเตรียมมาให้แล้วในบทความนี้เลยครับ มาทำความเข้าใจโปรแกรมจำลองการเทรด และวิธีการเลือกโปรแกรมจำลองการเทรดอย่างไรให้ดีที่สุด ไปเริ่มกันครับ
โปรแกรมฝึกเทรด Forex คืออะไร?
คือโปรแกรมหนึ่งที่ “จำลอง” สภาพตลาดจริงขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เทรดเดอร์ได้ทดลองเทรดหุ้นและฝึกการใช้กลยุทธ์และฝึกเทรดหุ้นด้วยเงินจำลองก่อนที่จะไปลงสนามในตลาดจริง โปรแกรมจำลองบางตัวจะใช้อัลกอริธึมแบบง่ายๆ ในการเลียนแบบกิจกรรมของตลาดแบบกว้างๆ และบางตัวจะแสดงข้อมูลตลาดจริงซึ่งทำให้ได้ประสบการณ์การเทรดในตลาดที่สมจริงกว่า
คุณสมบัติสำคัญของโปรแกรมฝึกเทรด Forex
1.การจำลองและอัพเดตสภาวะตลาดจริง
2.ใช้บัญชีทดลองเทรดได้โดยไร้ความเสี่ยง
3.มีฟีเจอร์และฟังก์ชันสำหรับการเทรดครบ
4.สามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรด Forex ได้ทุกรูปแบบ
โปรแกรมจำลองการเทรดส่วนใหญ่ มักจะตั้งชื่อตามประเภทของตราสารเช่น โปรแกรมเทรดหุ้นจำลอง (เทรดหุ้น) โปรแกรมจำลองการเทรด Forex (เทรด Forex) เป็นต้น
โปรแกรมจำลองการเทรดยังอาจตั้งชื่อตามอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น
1.โปรแกรมจำลองการเทรดสำหรับ PC
2.โปรแกรมจำลองการเทรดสำหรับ iPhone
3.โปรแกรมจำลองการเทรดสำหรับ iPad
4.โปรแกรมจำลองการเทรดสำหรับ MAC
5.โปรแกรมจำลองการเทรดสำหรับ Android
แทนที่จะดูที่ชื่อเรียกของโปรแกรมจำลองการเทรด เราควรเลือกดูที่คุณสมบัติการใช้งานแทน โดยคุณสมบัติการใช้งานของโปรแกรมจำลองการเทรดควรจะเหมือนกับบัญชีเทรดจริง ทั้งการเปิด การปรับแต่ง และการปิดการซื้อขาย รวมถึงการเก็บค่าธรรมเนียมเหมือนกับที่มีการเรียกเก็บกับบัญชีเทรดจริง เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าสเปรด ค่า swap เป็นต้น
เลือกโปรแกรมฝึกเทรด Forex อย่างไรให้ดีที่สุด
มาดูกันว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างเพื่อให้ได้โปรแกรมจำลองการเทรดตัวที่ดีที่สุด
1.โปรแกรมฝึกเทรด Forex นั้นๆ สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะตลาดจริงหรือไม่
โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้วิธีการเทรด Forex ต้องมีข้อมูลของตลาดเพื่อให้คุณได้มองเห็นความผันผวนของตลาด ด้วยข้อมูลของตลาดแบบเรียลไทม์ทำให้ มองเห็นว่ากรอบระยะเวลาของโอกาสในการเทรดมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่ทำกำไรด้วยการซื้อขายในวันเดียวกัน (intra-day trader) จะเห็นว่าการเปิดสถานะ (position) ทิ้งไว้อีกสักวันสองวันจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ในขณะเดียวกันหากคุณเป็นเทรดเดอร์รายวัน (day trader) หรือเทรดเดอร์ที่ทำกำไรระยะสั้น (scalper) ก็จะเห็นว่าช่วงระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจจะเป็นไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ
โปรแกรมฝึกเทรด Forex หรือโปรแกรมเล่นหุ้นจำลอง เห็นว่าการเทรดบางรูปแบบจะให้ผลลัพธ์อย่างไรเมื่อนำไปใช้ในการเทรดจริง เนื่องจากการขยับของราคาที่เห็นอยู่ในโปรแกรมจำลองการเทรดนั้น ๆ จะเหมือนกันกับที่เกิดขึ้นอยู่ในตลาดจริง ๆ สิ่งเดียวที่ต่างออกไปก็คือเทรดด้วยเงินจำลองนั่นเอง
2.โปรแกรมฝึกเทรด Forex นั้นๆ ให้ปรับเปลี่ยนวงเงินลงทุนได้หรือไม่
โปรแกรมจำลองการเทรดฟรีส่วนใหญ่มักจะมีวงเงินจำลองให้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 100,000 ยูโร ซึ่งอาจดูเหมือนกับว่าเป็นเรื่องดีเพราะทำให้คุณมีเงินทุนจำลองให้สามารถฝึกเทรดได้มากขึ้น แต่ความจริงแล้วถ้าไม่ได้คิดจะลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่านั้นจริง ๆ ในบัญชีเทรดจริง ก็เท่ากับว่าไม่ได้จำลองสถานการณ์เทรดที่ต้องการจริง ๆเลย
เป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะเริ่มฝึกการเทรดด้วยจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่คาดว่าจะใช้ในการเทรดจริง เช่นถ้าวางแผนว่าจะเข้าเทรดจริงด้วยวงเงิน 10,000 ยูโร คุณก็ต้องฝึกเทรดด้วยวงเงินจำลองจำนวน 10,000 ยูโรด้วยเช่นกัน
3.ผู้ให้บริการโปรแกรมเล่นหุ้นจำลองนั้นๆ เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้หรือไม่
โปรแกรมเล่นหุ้นจำลองและโปรแกรมจำลองการเทรดส่วนใหญ่มักจะให้บริการโดยโบรกเกอร์แบบออนไลน์ ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณกำลังจะเลือกใช้บริการนั้นเชื่อถือได้ เพราะตามปกติแล้วเมื่อคุณฝึกเทรดบนบัญชีทดลองจนเชี่ยวชาญแล้วก็มักจะเลือกที่จะเทรดจริงกับโบรกเกอร์นั้นต่อไปด้วย
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ ได้แก่
1.ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่
2.มีการแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากเงินทุนของบริษัทหรือไม่
3.มีตราสารให้เทรดกี่ประเภท มีแค่ Forex หรือมีแค่หุ้น หรือมีทั้งสองประเภท
4.มีโปรแกรมเทรดและเครื่องมือเทรดอะไรบ้าง
5.อัตราค่าธรรมเนียมในการเทรดเท่าไหร่
6.มีศูนย์บริการลูกค้าในประเทศของคุณหรือไม่ และจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร
เริ่มเทรดบนบัญชีเทรดจริงเมื่อไหร่ดี?
โปรแกรมจำลองการเทรด Forex จะเปิดโอกาสให้ได้ฝึกฝนการเทรด แต่ก็ไม่ควรทดลองเทรดบนโปรแกรมจำลองการเทรดแบบนี้มากเกินไป อาจทำให้ไม่เข้าไปหาประสบการณ์จากการเทรดด้วยเงินจริงในตลาดจริง เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จึงให้บริการโปรแกรมการเทรดจำลองแบบมีวันหมดอายุ โดยมักจะมีระยะเวลา 30 วันหลังจากเปิดบัญชีทดลอง
ขั้นตอนแรกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนไปเทรดบนบัญชีเทรดจริงก็คือการตั้งเป้าหมายว่าต้องการผลตอบแทนการเท่าไหร่ในบัญชีทดลอง ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเทรดบนบัญชีเทรดจริง
ตัวอย่างเช่น ต้องการให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนอย่างน้อย 3% หรือทำกำไรได้ $1,000 ใน 3 เดือนติดกันโดยไม่ขาดทุน เป็นต้น
เมื่อเริ่มเทรดบนบัญชีเทรดจริงแล้ว อย่ากลัวที่จะต้องล้มเหลว ทุกคนล้วนเคยล้มเหลวขาดทุนกันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งถ้าฝึกการจัดการความเสี่ยงควบคู่ไปกับการเทรด และสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดการขาดทุนได้
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก admiralmarkets
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กว่าจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เรื่องราวของ Vitalik Buterin เป็นมาอย่างไร?
15 ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ
การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จสามารถเปรียบเทียบกับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ซึ่งใน 5 วิธีที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีขั้นตอนใดที่สามารถขาดไปได้: 1. Plan (การวางแผน) = จุดหมายปลายทาง 2. Strategy (กลยุทธ์) = แผนที่เส้นทางเพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทาง 3. Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) = ขับเรืออย่างระวังเพื่อที่จะไม่ให้ไปชนภูเขาน้ำแข็ง 4. Lookout for News (ติดตามข่าวสาร) = มีไหวพริบที่ดี สังเกตุถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น 5. Play Your Own Game (เล่นเกมส์ชีวิตของตัวเองโดยไม่ไปแข่งกับผู้อื่น) = มุ่งไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ว่า