简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แชร์ประสบการณ์การเทรดตลอดระยะเวลา 6 ปีครึ่งจากเทรดเดอร์มืออาชีพ
เรื่องราวในวันนี้แอดเหยี่ยวไปเจอบทความดีดีใน Tradingview เป็นการแชร์ประสบการณ์การเทรดตลอดระยะเวลา 6 ปีครึ่งของเพจเทพคอยน์ แอดได้อ่านจนจบแล้วรู้สึกชอบมากและอยากนำมาแชร์ให้เทรดเดอร์ทุกท่านได้อ่านกัน ถึงมันจะยาวหน่อยแต่แนะนำให้อ่านให้จบ โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า
ปี 2017
- เริ่มเข้ามาเทรดคริปโตช่วงกลางปี หลังจากรู้จักมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่
- เข้ามาเทรดก็ตามสไตล์เม่า ได้กำไรง่ายๆ จากเหรียญขยะจนคิดว่า “โอ้โห ถ้าทำได้ขนาดนี้ สักพักก็ได้มากกว่าเงินเดือนอีกนะเนี่ย!” ว่าแล้วก็เลยจัดหนัก มีเท่าไหร่ ใส่เต็มเหนี่ยว
- เจอตลาดพักฐานช่วงปลายๆ ปี ดอยเหรียญขยะ พอร์ตหายไปกว่า -50% ทำอะไรไม่ถูกตามสไตล์เม่า หากูรูลอกโพยเหรียญไปเรื่อย ลงคลาสไปเรื่อยใครอวดกำไรก็ตามไปหมด
- คัทเหรียญที่ดอยมาเข้าเหรียญขยะตามโพยกูรู ได้อานิสงค์ bull run ช่วงปลายปี 2017 จนพอร์ตกลับมาฟื้นเป็น “เท่าทุน”
ปี 2018
- ปีแห่งการเผาจริง ช่วงต้นปีก็ยังเชื่อกูรูว่าตลาดจะไปต่อ ก็ไปดอยเหรียญเต็มไปหมด ตอนนั้นใช้บอทของ อจ. ท่านหนึ่งด้วย ก็พาดอยเหรียญขยะยับๆ
- พอสักมีนาเริ่มเห็นท่าไม่ดี พอร์ตเริ่มกลับมาลบหนักเหมือนเดิม ก็เลย ตัดใจคัทเหรียญในบอททิ้งทั้งหมด แล้วมาเทรดมือแทน แต่ยิ่งเทรดก็ยิ่งเจ๊ง ยิ่งเทรดยิ่งจน
- เริ่มเขียนกลยุทธ ลองกลยุทธเทรดสั้นไปเรื่อย เอาไปใช้กับบอท ผล backtest โคตรดี เทรดจริงยับๆ
-ช่วงตลาดนิ่งๆ ช่วงปลายปี 2018 เริ่มทำกำไรยาก เลยใช้ leverage 20x กับเอาเงินใส่ไปเยอะ เพราะไปเชื่อวาทกรรมว่า ทุนขุด 6k ไม่ลงต่ำไปกว่านี้ และถ้า break สามเหลี่ยมนี้ก็จะขึ้นยาว
- แต่อนิจจา กลายเป็นว่ามัน break ลงแทน สรุปวันเดียวขาดทุนไปกว่า -80% จากที่เจ๊งๆ อยู่แล้วก็เจ๊งหนักกว่าเดิม เครียดมาก
- ปิดปีแบบอนาถ ได้ๆ สักพักก็คืนกำไร เทรดมั่วไปหมด แต่ก็ถือว่าเป็นปีที่ได้บทเรียนอะไรมาเยอะมากๆ
ปี 2019
- เริ่มปีมาด้วยความเศร้าจากปีที่แล้ว มีแต่กูรูทำนายกันว่า BTC จะลงไป 1000$ บ้าง 800$ บ้าง 2000$ บ้าง แช่งกันไปดิ ( ตอนนั้น BTC แกว่งๆ อยู่ราวๆ 3200$-3800$
- เริ่มซึมซับความรู้ในการเทรดตามระบบ trend following จากปู่ Peter Brandt ที่ อจ.ที่เขียนบอทได้มอบหมายให้ผมแปลบทความลงห้อง VIP ให้ บอกเลยว่านี่คือจุดเปลี่ยนมุมมองของผมในการเทรดไปเลย
- เริ่มดูเทรนออก และทันขึ้นรถตอนกราฟ week เป็นขาขึ้นช่วง BTC ทะลุ 4500 มาได้
- เนื่องจากยังรีบอยากรวยเร็ว ทำให้ตอนนั้นไปใช้ leverage 5x แบบ all-in ทำให้แค่สองเดือน ที่ BTC ขึ้นจาก 5,000$ ไป 14,000$ พอร์ตโตขึ้นมาถึง +160%
- แต่ กำไรที่ได้มาจากโชค ไม่ใช่ความรู้ เราก็จะต้องคืนกลับไปให้ตลาดอยู่ดี… สุดท้ายช่วงที่ BTC ออกข้างไปเรื่อยๆ ในช่วงกลางปี 2019 ก็เริ่มคืนกำไรไปเรื่อยๆ
- พอเทรดเองไม่ได้กำไร ก็ไปเริ่มซนหาเครื่องมือมาช่วย ตอนนั้นเห็น อจ.ท่านหนึ่งแนะนำ scavenger bot เป็นบอทเทรดสองหน้าแบบสะสม position ไปทุกๆ 1 นาที แล้วจะสร้าง order ไปเรื่อยๆ เพื่อจะกิน maker fee ที่ Bitmex ช่วงแรกๆ ก็ได้กำไรคำเล็กๆ จากค่า fee มาเรื่อยๆ เพราะกราฟมันยังนิ่งๆ สะบัดแคบๆ
- พอกราฟหลุด 10k ลงมา 7k เท่านั้นแหละจ้า ความชิบหายบังเกิด ขาดทุนยับ เพราะบอทแม่งสะสม position ใหญ่มากๆ จนโดนลากแบบอย่างโหด ส่วนคำแนะนำของ อจ.ก็คือ ให้เติมสู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็กลับมา ( อจ. เขาบอกให้เตรียม BTC เผื่อไว้สัก 2-3 BTC สำหรับหน้าที่โดนลาก เพื่อเติมไปสู้ )
- สุดท้ายก็ไม่ยอมเชื่อ และไม่เติม และคัทหนีออกมาก่อน ซึ่งก็คิดถูกแล้ว เพราะถ้าไม่คัทคงบ้าตายไปซะก่อน
- ยัง ยังไม่พอ ไปเชื่อเพื่อนที่ได้บอท martingale forex มาอีก ทรงเดียวกันกับบอทก่อนหน้าเด๊ะ แต่คิดว่า “มันคงลองมาแล้ว น่าจะเชื่อถือได้” ก็เลยโอนเงินไปลองใช้ดู .. สรุปก็โดนลากเหมือนกัน เจ๊งเหมือนกัน เด๊ะ แต่ดีหน่อยที่ไหวตัวทันก็เลยรีบคัทหนีออกมาก่อน แต่ก็เจ็บหนักอยู่ดี
- สรุปแล้ว ปีนี้ ที่ได้กำไรมาเยอะช่วงกลางปี แต่พอคิดว่า “กำไรมันอยู่เฉยๆ ก็เสียดาย เราต้องเอาไปต่อยอดสิ” แล้วก็ไปใช้บอทบ้าๆ บอๆ สุดท้ายก็เจ๊ง ก็เลยได้บทเรียนว่า “ไอ้สัส มึงได้กำไรมึงก็นั่งเฉยๆ ก็พอแล้ว” สรุปปีนั้นก็เลยขาดทุนยับๆ อยู่ดี ….. แต่ก็ได้บทเรียนที่ล้ำค่ามาเหมือนกัน
ปี 2020
- หลังจากไปเรียนรู้แบบจุกจริงเจ็บจริงมาสองปี จนแทบเป็นบ้าแต่ก็ยังไม่เป็น ทำให้ปี 2020 เป็นปีที่เอาบทเรียนจากสองปีก่อนหน้ามาสร้าง “สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะถ้าทำแล้วจะเสียตัง” เต็มไปหมด
- ตอนนั้นก็เลิกเทรดสั้นทั้งหมด เน้น TF Daily และทดลองระบบ Trend Following และนำมาใช้ แต่ดันไป over use มันเกิน เอามาใส่ในกราฟ 12 ระบบ ต้องรอมัน confirm 8 ระบบถึงจะเริ่มซื้อ กว่าจะได้ซื้อกราฟก็ไปหวันแล้ว
- แต่ข้อดี มันก็ยังมี เพราะหลังจากนั้น BTC เองก็เริ่มออกข้างซึมๆ ในช่วง Feb ก่อน covid dump จะมา ทำให้ทุกระบบมีสัญญาณ “ขาย” ออกทั้งหมด เพราะเราก็เชื่อระบบก็ขาย+ลดความเสี่ยงทั้งหมด ทำให้ตอน covid ก็รอดตายมาได้แบบสบายๆ
- ช่วงนั้นกูรูก็ออกมาฟันธงกันไปต่างๆ นาๆ ว่า ลงไม่ลึกหรอก ลงแค่ 8000 เดี๋ยวก็เด้งขึ้นเวฟ 1-2 หญ่ายยยย ขึ้นสู้งงงงงง หลายๆ คนไปเชื่อก็ไปซัดจัดหนักจัดเต็มกันแถวๆ โซน 8000 สุดท้ายมันก็รูดคืนเดียวลงไปถึง 3000 ใช้ leverage น้อยที่สุดก็ยังพอร์ตแตก … แต่ผมรอด + ได้กำไรมาด้วย เพราะซื้อ put option ทิ้งเอาไว้ 555
- หลังจากนั้น ก็เชื่อในระบบมาตลอด แต่ก็ปรับ fine tune มันอีกรอบ เพราะว่า ตอนที่ใช้ 8 ระบบ confirm มันช้าไป ก็ปรับเหลือแค่ 4 ระบบ และแยกไม้กันเข้าไปแทน ไม่รอเข้าพร้อมกันหมด และก็ใช้ 4 ระบบที่ว่า มาจนถึง ปัจจุบันนี้
- ความตลกร้ายของตลาดก็คือ ช่วงปลายปี 2020 กูรูก็ออกมาฟันธงกันเต็มไปหมดว่า ปี 2021 ตลาดจะพัง เกิดวิกฤตเหมือนตอน subprime ตลาดลงยับๆ หลายๆ คนก็ไม่กล้าซื้อกัน แต่ตอนนั้นระบบที่ผมใช้ มันก็เขียวแล้วไง ผมก็ไม่สนคำทำนายกูรู เราก็เข้าตามระบบไป.. ทำให้พอจบปี ก็ปิดบวกมาได้แบบชิวๆ
ปี 2021
- ปีนี้แม้แต่ลิงก็ยังเป็นเซียนได้ สำหรับผม กำไรแค่นี้มันก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับพวกที่ไปเล่น DeFi, GameFi, NFT จนเปลี่ยนเงิน หกหลัก เป็น แปดหลัก แล้วก็โม้กันจนเต็มเฟส, youtube และ tiktok
- แต่ก็นั่นแหละ งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา ผมที่ผ่านตลาดนรกช่วงปี 2018+2019 มาแล้ว ก็ได้บทเรียนชั้นดีมาว่า “ถ้าระบบบอกให้เราขาย เราก็ต้องขาย มาถือเงินสด จบนะ”
- ทำให้ช่วงตลาดลงจาก 65k มา 30k ตอนกลางปี… ผมก็รอดมาได้ และตอนตลาดเริ่มเสียทรงขาขึ้นตอนปลายปี … ผมก็รอดมาได้อีกอยู่ดี ทำให้สิ้นปี ปิดจ๊อบไปได้แบบเกินคาดอย่างมาก
- ปีนี้ผมโดนแขวน+ทัวร์ลงหนักมาก เพราะไปเตือนลงเพจเกี่ยวกับ DeFi ทำให้หลายๆ คนไม่พอใจ แล้วแคปไปด่ากันอย่างสนุกสนานในกลุ่มแชท ทำให้ผมได้บทเรียนมาเช่นเดียวกันว่า เออ ช่างแม่งเหอะ ใครจะทำไรก็ปล่อยมันทำไป เจ๊งก็เรื่องของมัน เพราะเงินมัน ไม่ใช่เงินเรา เราก็เตือนครั้งเดียวพอ สุดท้ายพอ GameFi, NFT มา ผมก็เลยขี้เกียจจะไปเตือนไรมาก … สุดท้าย ทุกตัว มันก็เจ๊งตามที่ผมได้เคยเตือนๆ ไว้
ปี 2022
- ปีนี้เป็นปีที่โหดสัสสำหรับทุกตลาด เพราะคริปโตก็ลง หุ้นเมกาก็ลง หุ้นจีนก็ลง หุ้นไทยก็ลง หุ้นเวียดนามก็ลง คือลงกันหมด แต่มีอย่างเดียวที่ขึ้น คือ “USDTHB”
- ช่วงนั้นผมก็มีการแบ่งเงินบางส่วนไปเทรด USDT/THB ที่ bitkub โดยใช้หลักการ trend following ตามที่ผมใช้ๆ มาอยู่นี่แหละ สุดท้ายก็เลยพอทำกำไรมาช่วยจุนเจือพอร์ตคริปโต ที่พอร์ตนั้นปิดปีขาดทุนไปประมาณ -6% เพราะเข้าตามระบบ แล้วโดนสับขาหลอกตลอด
- มีจังหวะรอดตายหวุดหวิดคือ คืนที่ FTX เปิดวอร์กับ CZ ผมเห็นทรงแล้วดูไม่ดีเลยรีบโอนเงินออก รออยู่สองชั่วโมงกว่าจะได้เงินคืน ตอนรอนี่เหงื่อออกตูด เป็นสองชั่วโมงที่นานมากๆ ในชีวิต เพราะตอนนั้นเอาเงินไปฝากกินดอกที่ FTX แทบจะทั้งหมดของพอร์ตเลยก็ว่าได้ ถ้าช้ากว่านั้นอีกนิดเดียว ก็คงหมดตัว ไม่ได้มาโม้ตามโพสนี้ 5555
- อีกช๊อตที่รอดตายคือ ตอนแรกก็เอาเงินไป lock ไว้ที่ zipmex แล้วพอเริ่มเห็นว่า rate มันไม่ดี พอ unlock ได้ก็ถอนออกมาหมด ทำให้ไม่มีเงินใน zipmex เลยก่อนที่มันจะล้ม ซึ่ง.. จริงๆ ก่อนหน้านั้นเคยวางแผนว่าจะเอาไปฝากไว้ที่นั่นยาวๆ เพราะ “เป็น exchange ที่ กลต. รับรอง” .. สุดท้าย ก็เป็นอย่างที่เห็น
- เกร็ดความรู้ : ปีนี้ พวกที่เปลี่ยนเงินหกหลักเป็นแปดหลัก สุดท้ายก็กลับมาเหลือหกหลักเหมือนเดิม บางคนก็กลายเป็นศูนย์ เพราะหมดไปกับ FTX, Zipmex, Anchor ฯลฯ ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนอันเจ็บปวดของหลายๆ คน… ก็เรียนรู้กันไปครับ เหมือนที่ผมเคยเจอมาก่อนตอนช่วง 2018-2019 เจอก่อนเจ็บก่อนรอดก่อน
ปี 2023
- ปีนี้ สำหรับคริปโต เปิดปีมาก็ซิ่งเลย เพราะ BTC ขึ้นจาก 15k ไป 30k ช่วงต้นปี ผมเองที่ทำตามระบบ ก็แน่นอน ได้ขึ้นรถเก็บกำไรอิ่มๆ กันไป
- แต่หลายๆ คน ที่ พยายามจะลองทำตามระบบ แล้วเจอสับขาหลอกรัวๆ ตอนปี 2022 ก็ออกมาถ่มถุยระบบที่ผมใช้ว่า “เฮอะ เดี๋ยวก็หลอกเหมือนทุกทีน่ะแหล๊ะ” สุดท้าย ก็ไม่ได้เข้า ตอนระบบบอกให้ซื้อ แล้วก็ได้แต่ตกรถ กันไปแบบเซ็งๆ
- ส่วนกลางปี พอ BTC พักตัว ผมก็ทำตามระบบไปโง่ๆ เหมือนเช่นเดิม แต่พอร์ตก็นิ่งและไม่ไปไหนอยู่หลายเดือนมากๆ แถมหดด้วย เพราะเจอ false sig ไปบ่อย จนคนที่มาลองทำตามระบบหลังจากเห็นผมอวดกำไรช่วงต้นปี ออกมาถ่มถุยว่า ระบบแม่งโคตรกาก มีแต่สัญญาณหลอก
- พอปลายปี ระบบเขียวอีกรอบ หลายๆ คนก็ยังออกมาถ่มถุยเหมือนเดิมว่า “เฮอะ เดี๋ยวก็หลอกเหมือนทุกทีน่ะแหล๊ะ” สุดท้าย มันก็ไปจริง หลายๆ คนก็ตกรถกันเป็นแถบ เรื่องนี้มันก็ให้บทเรียนกับผมได้เหมือนกันว่า ถ้าเราเชื่อมั่นในระบบ ก็ทำต่อไปเถอะ ยิ่งจังหวะตอนที่เราไม่อยากจะเข้า เพราะมันสับขาหลอกบ่อยๆ … ยิ่งต้องกล้าเข้า เพราะ ถ้ามันไปต่อ แล้วเราไม่เข้า เราจะเซ็งยิ่งกว่าเยอะ
- หลายๆ คนอาจจะงงว่า เอ๊ะ แอด BTC ขึ้นมาตั้ง 160% ทำไมแอดได้กำไรแค่ 20% เองอ่ะ น้อยจัง ที่มันน้อยเพราะยอดนี้มันคือพอร์ตรวมของสองพอร์ต นั่นคือ พอร์ตหุ้นเมกา ด้วยครับ ซึ่งกำไรที่ผมได้จริงๆ จากการทำตามระบบก็คือ ประมาณ 35% ที่ความเสี่ยง 4% โดย Benchmark ของการทำตามระบบแบบเป๊ะๆ ที่ผมทำเป็น paper trade ไว้ อยู่ที่ 56% ครับ ที่ความเสี่ยง 4%
- สำหรับผม ถ้ามอง Risk:Reward กำไร 35% ที่ความเสี่ยง 4% ก็ตกอยู่ที่ 8.75RR ซึ่งผมก็ happy กับผลการเทรดมากๆ แล้วนะ
- ส่วนพอร์ตหุ้นเมกา ยอมรับว่า มั่ว และป๊อด ไปช่วงนึง ทำให้แทนที่จะได้กำไรสัก 30% แต่ก็ได้มาจริงแค่ 5% เพราะไปเข้าๆ ออกๆ และเจอค่าเงิน USDTHB อ่อนหนักนั่นเองครับ
สรุปสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาตลอด 6 ปี ครึ่ง
- ยิ่งอยากได้กำไรเร็ว ยิ่งเจ๊ง อันนี้โคตรจริง เพราะพอเราอยากรีบทำกำไร เราจะเลิกคิดถึงความเสี่ยง และไอ้ความเสี่ยงนี่แหละมันจะทำให้พอร์ตพังยับ ถ้าตลาดไม่เป็นอย่างที่เราคิด
- ช่างแม่งเยอะๆ ใครบ่นอะไรไม่เข้าหูก็บล๊อกแม่งให้หมด เพราะ 100 คน 100 ความเห็น อะไรที่มันทำให้ใจเราขุ่นมัวก็ปิดการรับรู้มันไปซะ
- นึกถึงความเสี่ยงให้รอบด้าน ก่อนลงทุนทำอะไรเสมอ ถ้ามันดูแล้วคุ้มต่อความเสี่ยงก็ทำไปเลย อย่ากลัวเกินจนไม่กล้าทำอะไรเลย
- กูรูคนไหนชอบทำนายอนาคต อย่าไปให้ราคาเยอะ ฟังขำๆ พอ เพราะผมอยู่มา 6 ปี ครึ่ง กูรูนักทำนายพวกนี้ทำนายผิดกันไปไม่รู้กี่รอบ สักพักก็ออกมาทำนายใหม่คนก็มาชาบูกันต่อ
- ตลาดเป็น cycle เสมอ ตอนตลาดดีๆ กูรูเต็มตลาด กาวหึ่ง ก็ต้องระวังตัวอย่าไป FOMO มาก เพราะโอกาสจบรอบมีตลอดเวลา รวมถึง ตอนตลาดแย่ๆ ข่าวแย่เต็มไปหมด กูรูแช่งเต็มสื่อ ก็ต้องอย่าไปกลัวมาก มีระบบมาคุมอีกที กราฟบอกให้ซื้อก็ต้องเข้าซื้อ เพราะฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก : Real_inwCoin
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :
https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ความมั่นใจเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับนักเทรด แต่ความมั่นใจเกินไปอาจเป็นดาบสองคมที่ทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไร และอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดทุนที่ไม่จำเป็น ดังนั้น การรักษาความมั่นใจในตัวเองในระดับที่พอเหมาะ พร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงและการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาดได้อย่างยั่งยืน
Zero-Day Options คือเครื่องมือที่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่รักความท้าทาย ชอบการเทรดแบบจบภายในวัน และพร้อมรับมือกับความผันผวนที่สูง เทรดเดอร์ที่เก่งกาจสามารถเปลี่ยนความเสี่ยงนี้ให้กลายเป็นโอกาสทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับมือใหม่ก็ต้องศึกษาและฝึกฝนให้มากก่อนที่จะกระโจนเข้าสู่สนามนี้
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
การทำงานของความกลัวในตลาดไม่ต่างจากการทำงานของสัญชาตญาณในตัวเรา เมื่อเรามองเห็นความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยง ความกลัวจะกระตุ้นให้เราหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตัวเองจากการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อตลาดมีความผันผวนมากขึ้นหรือเมื่อมีข่าวที่ไม่ดีออกมา นักลงทุนมักจะตกอยู่ในสภาวะตกใจและเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ง่าย
Neex
FBS
FP Markets
Vantage
VT Markets
EC Markets
Neex
FBS
FP Markets
Vantage
VT Markets
EC Markets
Neex
FBS
FP Markets
Vantage
VT Markets
EC Markets
Neex
FBS
FP Markets
Vantage
VT Markets
EC Markets