简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:มือใหม่จดเลย ! ทำความรู้จัก Trend Reversal หรือการกลับตัวของเเนวโน้มราคา
วันนี้แอดเหยี่ยวนำบทความดี ๆ จากคุณ Alice Veronica มาฝากกันอีกแล้ว โดยเนื้อหาในครั้งนี้คือเรื่อง “ Trend Reversal”
Trend Reversal หรือการกลับตัวของเเนวโน้มราคา จริง ๆ การกลับตัวมีหลายเเนวทางมากก็เลือก ทฤษฎี Dow theory เป็นการยกตัวในอย่างในโพสต์นี้ เริ่มที่พื้นฐานจะเข้าใจกันง่าย ๆ
การกลับตัวของราคามีหลากหลายแบบ ในตัวอย่างนี้จะใช้การ Breakout เเละอีกรุปเเบบคือ Divergence ที่เป็นนิยมกัน
จุดสังเกตการกลับตัวของแนวโน้มขาลง
1. กราฟราคา Breakout ทะลุเส้นเทรนด์ไลน์
2. กราฟราคาได้ทำขึ้นไปทำ New High หรือจุดสูงสุดใหม่ Higher High
3. กราฟราคาได้ย่อตัวลงทำ Low ใหม่ที่สูงกว่า Low เก่า หรือทำ Higher Low
จุดสังเกตการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้น
1. กราฟราคาได้ Breakout ทะลุลงเส้นเทรนด์ไลน์
2. กราฟได้ทำ New Low หรือจุดต่ำสุดใหม่ Lower Low
3. กราฟราคาได้ย่อตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง Lower High
** จากรูปตัวอย่าง : ในกรณีนี้กราฟเป็นแนวโน้มขาขึ้น การที่ราคาไม่สามารถทำ High ใหม่ได้ บ่งบอกว่ากราฟมีโอกาสที่ไม่ไปต่อและกลับตัวลง **
จุดสังเกตก่อนที่กราฟจะมีโอกาสกลับตัว ในกรณีที่กราฟยังเป็นเทรนด์ขาลงอยู่
จุดที่ 1 : กราฟไม่สามารถทำ Low ใหม่ที่ต่ำกว่า Low เก่าได้ ในจุดนี้เราจึงวิเคราะห์ว่า กราฟมีโอกาสกลับตัวขึ้นสูง ต่อมาเราก็จะมารออีกหนึ่งสัญญาณคือต้องรอให้ราคาขึ้นไปทำ High สูงกว่า High เก่า
จุดเข้าเทรดที่เราสามารถเทรดได้ จะเป็นในจุดที่ราคากลับลงมาเทสหรือทำ Throwback ที่เส้นเทรนด์ไลน์ และจุดที่ 2 คือจังหวะ Breakout Higher High ขึ้นไป
จุดสังเกตการกลับตัวของเคสนี้คือ กราฟไม่สามารถทำ Higher High เหนือ 183.830 ได้ เราเลยมองว่ากราฟมีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวได้ ต่อไปก็รอให้กราฟเสียโครงสร้างอย่างเช่นกราฟ Breakout Trend Line ลงทำ Lower Low
จุดสังเกตของการเปลี่ยนเทรนด์ก่อนหน้านี้ กราฟราคาเป็นแนวโน้มขาลงและกราฟได้ Breakout เทรนด์ไลน์ขึ้นมาและราคาขึ้นไปทำ Higher High ทำให้เรารู้ว่ากราฟโอกาสที่ราคาจะกลับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้น ต่อไปเราจะรอดูว่ากราฟจะทำ HIgher Low ไหม
ถ้ากราฟลงมาต่ำกว่า 1.183 กราฟมีโอกาสที่จะลงต่อเพราะกราฟไม่สามารถทำ Higher Low ได้
หลังจากนั้น กราฟได้ย่อตัวลงมาทำ HL ทำให้กราฟมีโอกาสที่จะขึ้นต่อ จุดที่สามารถเข้าออเดอร์ได้คือ
1 .กราฟขึ้นไปทำ HH และย่อลงมาชนเทรนด์ไลน์ เราสามารถพิจารณา Buy ได้
2 .จะเหมือนกันเลยคือกราฟย่อลงมาชนเทรนด์ไลน์ เราสามารถพิจารณา Buy ได้
จุดสังเกตของการเปลี่ยนเทรนด์ ในเคสนี้เราจะเห็นว่ากราฟมีลักษณะ Sideway ที่ทำ High และ Low ที่ใกล้เคียงกัน ทำให้กราฟมีโอกาสที่จะกลับตัวลงสูง เพราะการพักตัวแบบนี้หมายถึง พักตัวเพื่อไปต่อหรือกลับตัวก็ได้
จังหวะเข้าออเดอร์ในกรณีนี้เราสามารถเข้าออเดอร์ในจังหวะ Breakout ได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจากเพจ Alice Veronica
แอดเหยี่ยวหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! อย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎของ 72 เป็นสูตรที่เรียบง่าย แต่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้ว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า ภายในเวลากี่ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนรายปีที่กำหนด หรือหากนักเทรดรู้ระยะเวลาที่เงินจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว กฎนี้ยังช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่คุณต้องการได้ด้วย
พีระมิดการลงทุนไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนได้อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการวางแผนและจัดการพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมาย พร้อมทั้งศึกษาและเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ทองคำ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
Tickmill
Pepperstone
ATFX
GO MARKETS
FXTM
HFM
Tickmill
Pepperstone
ATFX
GO MARKETS
FXTM
HFM
Tickmill
Pepperstone
ATFX
GO MARKETS
FXTM
HFM
Tickmill
Pepperstone
ATFX
GO MARKETS
FXTM
HFM