简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Yasin Ebrahim Investing.com - ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องใช้นโยบา
โดย Yasin Ebrahim
Investing.com - ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นระยะเวลานานเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่ “สูงจนไม่อาจยอมรับได้” ตามรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของเฟดที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า “ผู้เข้าร่วมการประชุมให้ข้อสังเกตว่าการรักษาจุดยืนนโยบายที่เข้มงวดในระยะเวลาประมาณหนึ่งจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับลดลงชัดเจนสู่เป้าหมาย 2 % นั้นเหมาะสมจากมุมมองของการบริหารความเสี่ยง”
ในช่วงสรุปของการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม FOMC ได้ปรับเกณฑ์ อัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ขึ้นอีก 0.5% ทำให้อยู่ในช่วง 4.25% ถึง 4.5%
การตัดสินใจด้านนโยบายของเฟดในเดือนธันวาคมนั้นช้าลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สี่ครั้งติดกันในการประชุมครั้งก่อน แม้เฟดจะเต็มใจปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในอัตราที่น้อยลง แต่สมาชิกเฟดในที่ประชุมสนับสนุนว่ายังมีความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยยกระดับการคาดการณ์ของพวกเขาเกี่ยวกับระดับสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราสุดท้ายขึ้น
สมาชิกเห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นและนานขึ้นจะเป็นการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและควบคุม เงินเฟ้อ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับ “สูงจนยอมรับไม่ได้” ตามรายงานการประชุม
ในการประชุม สมาชิกเฟดประเมินอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายที่ 5.1% ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.6% โดยเสนอช่วงเป้าหมายที่ 5%-5.25% หรือประมาณ 75 จุดพื้นฐานของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้นของธนาคารกลางนี้ มีสาเหตุมาจากสมาชิกของเฟดที่เตรียมพร้อมสำหรับอัตราเงินเฟ้อที่เร็วขึ้น โดยเพิ่มมุมมองต่อแรงกดดันด้านราคาเป็น 3.5% ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.1%
การอภิปรายระหว่างสมาชิกเฟดมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงสองประการ อยา่งแรกคือ ความเสี่ยงของการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวเร็วเกินไปนั้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงสู่เป้าหมาย 2% ล่าช้าออกไป และความเสี่ยงอีกอันคือการเงินที่ตึงตัวมากเกินไปจะกดดันให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
“ผู้เข้าร่วมหลายคนเน้นย้ำว่าคณะกรรมการจำเป็นต้องรักษาสมดุลของความเสี่ยงสองประการต่อไป ความเสี่ยงหนึ่งคือนโยบายการเงินที่เข้มงวดไม่เพียงพออาจทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของคณะกรรมการนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งนำไปสู่การคาดการณ์เงินเฟ้อที่ไม่คงที่...ความเสี่ยงอื่น ๆ คือการดำเนินการรัดกุมทางการเงินที่ไม่ต่อเนื่องอาจทำให้สุดท้ายแล้วจะต้องจบที่นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อกลับลงสู่กรอบเป้าหมายที่ 2%”
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด สมาชิกของคณะกรรมการยังคงมองว่าแนวโน้มเงินเฟ้อเป็น “ปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มของนโยบาย” ตามรายงาน
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางเมืองมินนีแอโพลิสกล่าวว่า แม้ว่าจะมีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลาย แต่เฟดยังมีงานต้องทำอีกมาก
“มันเหมาะสมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยในการประชุม 2-3 ครั้งถัดไป จนกว่าเราจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว” Kashkari กล่าวโดยคาดการณ์ว่าเฟดจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวเมื่อแตะที่ประมาณ 5.4%
“ผมคาดว่าเฟดจะหยุดที่ 5.4%” Kashkari กล่าว “ในมุมมองของผม รับประกันได้เลยว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจสูงขึ้นมาก”
ข้อมูลล่าสุดชี้ไปที่ตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัว ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตของค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เฟดจะต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป
ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ซึ่งเป็นมาตรวัดความต้องการแรงงาน แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งงานที่ลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนพฤศจิกายนเหลือ 10.458 ล้านคนจาก 10.512 ล้านคนในเดือนตุลาคม ตามรายงานของสำนักสถิติแรงงาน
“รายงานจาก JOLTS นั้นแข็งแกร่งมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความไม่สมดุลของแรงงานไม่ดีขึ้น” Jefferies กล่าวในบันทึก “หากความต้องการแรงงานยังไม่ลดลงมากขึ้น เฟดคงจะไม่ยินดีที่จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว โดยที่เรายังไม่ต้องพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเสียด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดคาดว่าภายใต้ “เส้นทางนโยบายการเงินที่จำกัดอย่างเหมาะสม” อุปสงค์และอุปทานของตลาดแรงงานจะ “เข้าสู่สมดุลที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านค่าจ้างและราคาขั้นต่ำ” รายงานการประชุมระบุ
เทรดเดอร์ประมาณ 84% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ตามข้อมูลของ เครื่องมือการติดตามอัตราดอกเบี้ยเฟด ของ Investing.com
“เรายังคงคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานอีก 3 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และพฤษภาคม เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกองทุนอยู่จุดสูงสุดที่ 5-5.25%” Goldman Sachs กล่าวในบันทึกล่าสุดก่อนบันทึกการประชุม FOMC
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
XM
FXTM
Neex
Octa
VT Markets
IQ Option
XM
FXTM
Neex
Octa
VT Markets
IQ Option
XM
FXTM
Neex
Octa
VT Markets
IQ Option
XM
FXTM
Neex
Octa
VT Markets
IQ Option