简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นขานรับความเห็นในเชิง Hawkish
สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 8.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นขานรับความเห็นในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดในวันศุกร์ นางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตัน เปิดเผยว่า แทบไม่มีหลักฐานว่าแรงกดดันด้านราคากําลังปรับตัวลง ดังนั้น เฟดอาจจําเป็นต้องปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ถ้อยแถลงดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป สะท้อนจาก Fed funds futures ที่บ่งชี้การคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.06% ภายในเดือนมิถุนายน 2023 จากระดับ 3.83% ในปัจจุบัน ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.89% ใน วันอังคาร นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่ม หลังสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.9% สู่ระดับ 4.43 ล้านยูนิตใน เดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แม้จะเป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2011 แต่ถือว่าลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.41 ล้านยูนิต ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนดัชนีดอลลาร์ปิดแข็ง ค่าขึ้น 0.24% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.816% ในวันศุกร์ จากระดับ 3.671% ในวันพุธ จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุด บริเวณ 1,746.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -1.73 ตัน สําหรับวันนี้ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง แต่หากสามารถยืนเหนือ โซนแนวรับ 1,740-1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดี หากยืนเหนือแนวรับแรกไม่ได้ ราคามีโอกาสที่จะ ทดสอบแนวรับบริเวณ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำเปิดสถานะขาย $1,767-1,786
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,740-1,735
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสถานะซื้อหากผ่าน $1,786
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปัจจัยใดบ้างที่น่าจะมีผลสำคัญที่สุดต่อนักลงทุนในปี 2025? 1. ผลกระทบระดับโลกจากการปรับสมดุลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 2. การเปลี่ยนแปลงจากเซมิคอนดักเตอร์ไปสู่ SaaS 3. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ใหม่
การสรุปพอร์ตในปีเก่าไม่เพียงแค่เป็นการทบทวนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและวางแผนให้กับการลงทุนในปีใหม่ด้วย การตั้งเป้าหมายใหม่ การปรับกลยุทธ์ และการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะทำให้เรามีแนวทางที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในการเทรดมากขึ้น ขอให้ทุกท่านพร้อมรับปีใหม่ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ!
ในปีนี้ อย่าลืมว่า การสร้างวินัยในการเทรด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน ความสำเร็จในการเทรดจะไม่เกิดขึ้นจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่จะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาตัวเอง และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ อย่าประมาทครับ! แม้ตลาดจะดูสงบ แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ก็มีมาก หากเป็นไปได้ควรปิดพอร์ตพักไว้ก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่หลังวันหยุดจะปลอดภัยที่สุด เทรดให้รอบคอบนะครับนักเทรดทุกท่าน!
GO MARKETS
Vantage
FBS
FOREX.com
FXTM
FxPro
GO MARKETS
Vantage
FBS
FOREX.com
FXTM
FxPro
GO MARKETS
Vantage
FBS
FOREX.com
FXTM
FxPro
GO MARKETS
Vantage
FBS
FOREX.com
FXTM
FxPro