สกุลเงินเอเชียดิ่ง หลังดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบ 20 ปี

โดย Ambar Warrick

Investing.com – ค่าเงินเอเชียร่วงลงในวันจันทร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่านโยบายการเงินจะตึงตัวมากขึ้น ในขณะที่ค่าเงินยูโรแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่จากความกลัวว่าวิกฤตพลังงานในยุโรปจะทวีความรุนแรงขึ้น

หยวนของจีน เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ทำผลงานแย่ที่สุดในเอเชีย โดยลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 6.9 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบกว่าสองปี ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin ที่เปิดเผยในวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าภาคบริการของประเทศเติบโตเกินคาดในเดือนสิงหาคม จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งตลอดทั้งเดือน

แต่อัตราการเติบโตของภาคธุรกิจชะลอตัวเล็กน้อยจากเดือนกรกฎาคม ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนที่เป็นดัชนีผสม ของจีนหดตัวลงในเดือนสิงหาคม ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการล็อกดาวน์จากโควิด19 และการขาดแคลนพลังงาน

ดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลง 0.2% ในขณะที่ เงินวอนของเกาหลีใต้ ร่วง 0.6% สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของเงินหยวน เนื่องจากจีนมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการค้าสำหรับภูมิภาคนี้

ดัชนีดอลลาร์ พุ่งขึ้น 0.5% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่สูงกว่า 110 ในรอบ 20 ปี ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ ก็ปรับตัวสูงขึ้นตามที่คาดไว้ ข้อมูลจาก การจ้างงานนอกภาคเกษตร ทำให้เฟดมีโอกาสมากขึ้นในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้เทรดเดอร์เชื่อว่ามี โอกาส 57% ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐานโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปลายเดือนนี้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นช่วยลดช่องว่างระหว่างหนี้ที่ปราศจากความเสี่ยงและหนี้ที่มีความเสี่ยง ซึ่งช่วยลดความน่าดึงดูดของสกุลเงินเอเชียที่ให้ผลตอบแทนสูง และยังส่งผลให้สภาพคล่องของเงินดอลลาร์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศในเอเชียลดลง

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งมีความสำคัญต่อดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ได้ประโยชน์จากค่าเงิน ยูโร ที่ร่วงลงอย่างรวดเร็ว

ค่าเงินยูโรร่วงลงเกือบ 0.4% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีที่ 0.9901 ต่อดอลลาร์ หลังจากที่รัสเซียปิดท่อส่งก๊าซหลักไปยังยูโรโซนในช่วงสุดสัปดาห์

การเคลื่อนไหวนี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัสเซียเป็นแหล่งก๊าซหลักของกลุ่มยูโรโซนที่จะใช้เพื่อให้ความร้อนในช่วงฤดูหนาว

วิกฤตพลังงานยังช่วยลดขอบเขตที่ธนาคารกลางยุโรปสามารถกระชับนโยบายการเงินได้ ธนาคารได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อการประชุมในสัปดาห์นี้ แม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลต่อค่าเงินยูโรแล้วก็ตาม

ในเอเชีย ค่าเงิน เยน ซื้อขายในกแดนลบเนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของญี่ปุ่น ของประเทศหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนสิงหาคม

ค่าเงินบาท เปิดตลาดช่วงเช้าซื้อขายอยู่ที่ 36.810 บาทต่อดอลลาร์ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้อยู่ที่ 36.35-36.95 บาท/ดอลลาร์