มาครงชนะเลือกตั้ง พายูโรพุ่ง บาทยืนเหนือ 34 หลังดอลลาร์แข็งค่า

โดย Gina Lee

Investing.com – ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังประธานาธิบดีฝรั่งเศส แอมานุแอล มาครง ชนะการเลือกตั้งอีกสมัยในวันอาทิตย์

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 0.05% เป็น 101.260 เมื่อเวลา 00:31 น. ET (4:31 AM GMT)

USD/JPY ขยับลง 0.15% เป็น 128.37 เยนต่อดอลลาร์

AUD/USD ลดลง 0.82% มาที่ 0.7179 โดยเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอยู่ที่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินสหรัฐฯ ในรอบเดือน NZD/USD ลดลง 0.68% มาที่ 0.6600 โดยตลาดทั้งสองปิดทำการในช่วงวันหยุดยาว

USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.66% เป็น 6.5447 ในขณะที่ GBP/USD ลดลง 0.28% มาที่ 1.2801

ชัยชนะของมาครงต่อคู่แข่งอย่าง มารีน เลอ แปง เป็นผลที่ตลาดและนักวิเคราะห์คาดหวังอย่างกว้างขวาง ด้วยคะแนนเสียง 97% มาครงจะได้คะแนนเสียง 57.4% ตามตัวเลขของกระทรวงมหาดไทย

ในการปราศรัยชัยชนะของเขา แม้จะยอมรับว่าหลายคนโหวตให้เขาเพียงเพื่อกันไม่ให้เลอแปงได้ตำแหน่ง แต่มาครงสาบานว่าจะจัดการกับความกังวลของชาวฝรั่งเศสจำนวนมากว่ามาตรฐานการครองชีพของพวกเขากำลังตกต่ำ

“ชัยชนะที่ชัดเจนของมาครงน่าจะสร้างความมั่นใจให้กับตลาดว่าการเปลี่ยนแปลงของยุโรปจะดำเนินต่อไป ในระยะสั้น ผู้ได้รับผลประโยชน์ตามหลักเหตุผลของการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นเงินยูโร ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วโดยมีค่าต่ำสุดในรอบสองปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์” Frederic Leroux สมาชิกทีมการลงทุนของ Carmignac กล่าวกับรอยเตอร์ส

“ด้านลบสำหรับตลาด ผลของการเลือกตั้งนี้อาจมาจากการตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการห้ามส่งน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อรุนแรงขึ้นและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป” เลอรูซ์กล่าวเสริม

เงินยูโรเปิดสูงขึ้นที่ 1.0840 ดอลลาร์และซื้อขายล่าสุดที่ 1.0807 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.12% จากวันศุกร์ แต่ยังคงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองปีในช่วงสัปดาห์ก่อน ยูโรขยับขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับปอนด์เป็น 84.22 เพนนี ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชีย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นได้รับแรงหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินยูโรและประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่เสียหาย ขณะนี้ตลาดกำลังปรับคาดการณ์สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และดัชนีค่าเงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 101.33 เมื่อวันศุกร์

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากร่วงลง 1.4% ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ข้อมูลยอดขายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ควบคู่ไปกับความคิดเห็นจากธนาคารกลางอังกฤษเมื่อต้นสัปดาห์ ส่งสัญญาณการชะลอตัวที่เป็นไปได้ในสหราชอาณาจักรที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เงินเยนของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เนื่องจากธนาคารกลางยังคงรักษาอัตราผลตอบแทนมาตรฐานไว้อย่างแข็งขัน ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในเช้าวันจันทร์และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับเงินเยนในปี 2022 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 129.4 ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นสูงที่สุดสำหรับ USD/JPY ในรอบ 20 ปี

ค่าเงินบาท ได้รับผลกระทบต่อภาวะแข็งค่าของดอลลาร์เช่นกัน โดยเช้านี้เปิดตลาดยืนเหนือ 34 บาทต่อดอลลาร์