ราคาทองปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ หลังเจอแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

สรุป ราคา ทองคํา ในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 21.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคํายังคงได้รับแรงกดดันสําคัญจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ “เร่ง” ขึ้นอัตราตอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ Fed funds futures บ่งชี้ว่ามีโอกาสมากกว่า 80% ที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเพิ่มขึ้นอีก 1.59% สู่ระดับ 24-2.25% ภายในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดวันที่ 26-27 พ.ค.

.

ขณะที่ Nomura Holdings Inc. คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ศ. ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.75% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และ ก.ค. และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.25% ในทุกการประชุมที่เหลือของปีนี้ ซึ่งถือเป็นการคาดการณ์ที่ Hawkish อย่างมาก การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้หนุนอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.789% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2018 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีฟื้นตัวจากระดับต่ําสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ที่ลงไปทดสอบในวันพฤหัสสู่ระดับสูงสุดที่ 2.975%จนกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 101.33 ซึ่งเป็นระดับสูง ที่สุดนับตั้งแต่มี.ค. 2020 และปิดเพิ่มขึ้น 0.55% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุด ในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,926.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการปรับตัวลดลง-2.26% ซึ่งเป็นการปิดปรับตัวสติลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

.

ราคาทองคำเกิดแรงขายจนราคาอ่อนตัวลง แม้ว่าจะมีแรงซื้อให้ดีดตัวขึ้นมาได้บ้าง แต่หากมีแรงซื้อไม่มากพอ ราคามีโอกาสอ่อนตัว ลงทดสอบแนวรับโซน 1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ระยะสั้นประเมินแนวต้านโซนใกล้ 1,940 ดอลลาร์หากไม่สามารถผ่านไปได้ อาจเกิดแรงขายกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง

.

คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อหากไม่หลุด 1,915

จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,940-1,958

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด$1,915