Impulse wave คืออะไร

นายเอลเลียตกล่าวว่าตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในสิ่งที่เขาเรียกว่ารูปแบบคลื่น 5-3

รูปแบบ 5 คลื่นแรกเรียกว่าคลื่นแรงกระตุ้น

รูปแบบคลื่น 3 คลื่นสุดท้ายเรียกว่าคลื่นแก้ไข

ในรูปแบบนี้ คลื่น 1, 3, 5 เป็นแรงจูงใจ ซึ่งหมายความว่าไปพร้อมกับแนวโน้มโดยรวม ในขณะที่คลื่น 2 และ 4 มีการแก้ไข

อย่าสับสนระหว่างคลื่น 2 และ 4 กับรูปแบบการแก้ไข ABC (จะอธิบายในบทเรียนถัดไป)

อันดับแรก มาดูรูปแบบแรงกระตุ้น 5 คลื่นกันก่อน ง่ายกว่าถ้าคุณเห็นเป็นรูปภาพ:

ที่ยังคงดูค่อนข้างสับสน มาสาดสีให้กับคลื่นนี้ให้ดูง่ายกันเถอะ

มันสวยมาก! เราชอบสี ดังนั้นเราจึงกำหนดสีแต่ละคลื่นพร้อมกับจำนวนคลื่น

ต่อไปนี้คือคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างแต่ละเวฟ

เราจะใช้หุ้นเป็นตัวอย่าง เนื่องจากหุ้นคือสิ่งที่นายเอลเลียตใช้ แต่จริงๆ แล้วไม่สำคัญหรอกว่ามันคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงิน พันธบัตร ทองคำ น้ำมัน

สิ่งสำคัญคือ ทฤษฎี Elliott Wave ยังสามารถนำไปใช้กับตลาดForex

เวฟ 1

หุ้นทำให้เริ่มแรกขยับขึ้น

ซึ่งมักเกิดจากคนจำนวนค่อนข้างน้อยที่จู่ๆ (ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือในจินตนาการ) รู้สึกว่าราคาหุ้นนั้นถูก จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ ทำให้ราคาสูงขึ้น

เวฟ2

ณ จุดนี้ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นจะพิจารณาว่าหุ้นนั้นมีมูลค่าสูงเกินไปและทำกำไร

ส่งผลให้หุ้นตก อย่างไรก็ตาม หุ้นจะไม่ทำระดับต่ำสุดก่อนหน้านั้น ก่อนที่หุ้นจะถูกพิจารณาว่ามีการต่อรองราคาอีกครั้ง

เวฟ 3

ซึ่งมักจะเป็นคลื่นที่ยาวและแรงที่สุด หุ้นได้รับความสนใจจากมวลชน

ผู้คนจำนวนมากขึ้นทราบเกี่ยวกับหุ้นและต้องการซื้อมัน ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ คลื่นนี้มักจะเกินระดับสูงสุดที่สร้างขึ้นเมื่อสิ้นสุดคลื่น 1

เวฟ 4

เทรดเดอร์ทำกำไรเพราะหุ้นถูกมองว่าแพงอีกแล้ว

คลื่นนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวเพราะโดยปกติแล้วจะมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่ยังคงอยู่ในหุ้นขาขึ้นและกำลังรอที่จะ “ซื้อตอนขาลง”

เวฟ 5

นี่คือจุดที่คนส่วนใหญ่ซื้อหุ้นและมีแรงผลักดันจากฮิสทีเรียมากที่สุด

คุณมักจะเริ่มเห็น CEO ของบริษัทในหน้าแรกของนิตยสารรายใหญ่เป็นบุคคลแห่งปี

เทรดเดอร์และนักลงทุนเริ่มหาเหตุผลที่ไร้สาระในการซื้อหุ้นและพยายามทำให้คุณหายใจไม่ออกเมื่อคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเขา

ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาหุ้นเกินราคามากที่สุด พวกที่ตรงกันข้ามเริ่มชอร์ตหุ้นซึ่งเริ่มที่รูปแบบ ABC

คลื่นแรงกระตุ้นขยาย

สิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับทฤษฎีคลื่นเอลเลียตก็คือ คลื่นแรงกระตุ้นหนึ่งในสาม (1, 3 หรือ 5) จะถูก “ขยาย” เสมอ

พูดง่ายๆ ก็คือ จะมีคลื่นลูกหนึ่งที่ยาวกว่าอีกคลื่นลูกหนึ่งเสมอ โดยไม่คำนึงถึงระดับ

จากคำกล่าวของ Elliott มักจะเป็นคลื่นลูกที่ห้าที่ขยายออกไป

เมื่อเวลาผ่านไป รูปแบบการติดฉลากคลื่นแบบโรงเรียนเก่านี้เปลี่ยนไป เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มติดป้ายกำกับคลื่นลูกที่สามว่าเป็นคลื่นที่ขยายออกไป