ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง วอลสตรีทถดถอย

โดย Oliver Gray

Investing.com - ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ทรงตัวหลังจากดัชนีหลักขาดทุนในวันพฤหัสบดี โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนหมุนเวียนออกจากหุ้นที่มีมูลค่าสูง หลังจากรายงานการประชุมเฟดเมื่อต้นสัปดาห์แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางพร้อมยกเลิกการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 170.64 จุดหรือ 0.47% มาที่ 36236.48

ดัชนี S&P ลดลง 4.55 จุดหรือ 0.1% ที่ 4696.04

ขณะที่ Nasdaq Composite ลดลง 19.31 จุดหรือ 0.13% สู่ 15080.86 Dow Jones 30 Futures S&P 500 Futures Nasdaq 100 Futures

ในบรรดาหุ้นที่น่าจับตา ผู้เล่นเทคโนโลยีรายใหญ่สะดุดล้มโดย Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ร่วงลง 0.67%, Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 0.79% และ Apple (NASDAQ:AAPL) Inc (NASDAQ:{ {6408|AAPL}}) ลดลง 1.67% Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ก็ร่วงลง 2.15% ขณะที่ Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ร่วง 2.98% และ Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID) เพิ่มขึ้น 4.2%

อย่างไรก็ตาม หุ้นในภาคการเงินยังคงได้อิทธิพลจากพันธบัตรรัฐบาล โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้น 1.06%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) เพิ่มขึ้น 5.53%, Bank of America Corp (NYSE:BAC) เพิ่มขึ้น 2.01% และ Citigroup Inc (NYSE:C) เพิ่มขึ้น 3.28%

GameStop Corp (NYSE:GME) เพิ่มขึ้น 25.15% หลังจาก Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทจะสร้างตลาดสำหรับ NFTs ในขณะเดียวกันก็สำรวจความร่วมมือกับสกุลเงินดิจิทัลสำหรับเกมและไอเทมสำหรับตลาด

Quidel Corporation (NASDAQ:QDEL) เพิ่มขึ้น 2.45% หลังจากการเปิดตัว ผลประกอบการ ไตรมาสที่สี่เบื้องต้นขณะที่ T-Mobile US Inc (NASDAQ:TMUS) ลดลง 1.36% หลังจากประกาศผลประกอบการ

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 1.728%

ท่ามกลางข้อมูลที่นักลงทุนควรจับตา การเรียกร้องผู้ว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ มีจำนวนทั้งสิ้น 207,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มกราคม ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 195,000 ราย นักลงทุนจะติดตามข้อมูล การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีกำหนดจะเผยแพร่ในช่วงหลังของวัน