ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น หลังเผยผลประชุมเฟดออกมาในโทน Hawkish

โดย Gina Lee

Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในเช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย โดยยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังนักลงทุนรู้ผล การประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุด ซึ่งออกมาแข็งกร้าว(hawkish)กว่าคาด

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้จากการเทียบค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินอื่นเพิ่มขึ้น 0.01% เป็น 96.188 เมื่อเวลา 23:05 น. ET (4:04 น. GMT)

ค่าเงินเยน ขยับลง 0.20% เป็น 115.87 เยนต่อดอลลาร์

ดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลง 0.45% เป็น 0.7187 และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ลดลง 0.38% เป็น 0.6766

ค่าเงินหยวน ขึ้น 0.29% เป็น 6.3738 หยวนต่อดอลลาร์ โดยข้อมูลจีนซึ่งเผยแพร่ก่อนหน้านี้ในวันนั้นแสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin อยู่ที่ 53.1 ในเดือนธันวาคม

ค่าเงินปอนด์ ขยับลง 0.14% เป็น 1.3535 ปอนด์ต่อดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในวันอังคารที่ 116.355 เยนต่อดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน รายงานการประชุมของธนาคารกลางในเดือนธันวาคมที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ เฟดกล่าวว่าตลาดแรงงานสหรัฐ “ตึงตัวมาก” อาจทำให้เกิดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางสามารถกำหนดราคาได้อย่างรวดเร็ว โดยมีโอกาสประมาณ 80% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสี่ในการประชุมเดือนมีนาคม 2022

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 5 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี

นักลงทุนยังคงประะเมิน การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี ในวันอังคาร ซึ่งออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 807,000 ในเดือนธันวาคม รายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง การจ้างงานนอกภาคเกษตร จะครบกำหนดในวันศุกร์

“ด้วยโอกาสที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 เพิ่มขึ้นและการคุกคามของ QT ในปีนี้ ดอลลาร์สหรัฐควรรักษารูปแบบที่ยืดหยุ่น” นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ TD กล่าวในรายงาน

นั่นน่าจะปล่อยให้ USD/JPY ได้รับการสนับสนุนเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าเราคิดว่าเฟดอาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงไม่สามารถประเมินได้ทัน

แม้ว่าเฟดจะมีจุดยืนที่ไม่ดีนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์กลับอ่อนลง นับตั้งแต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ 96.938 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2021

“การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและโมเมนตัมยังคงสนับสนุนเงินดอลลาร์ แต่ราคาจะต้องทะลุระดับสูงสุดในไตรมาสที่ 4 ในปี 2021 เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้น” จอร์จ เดวิส นักยุทธศาสตร์ของ RBC กล่าวในรายงาน โดยชี้ไปที่ยูโร ปอนด์ และออสเตรเลีย โดยเฉพาะดอลลาร์ต่อเงินยูโรซึ่งซื้อขายที่ 1.1310 ดอลลาร์

ค่าเงินบาท ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์เช่นกัน ในวันนี้อ่อนค่าลง 0.54% มาอยู่ที่ 33.370 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ