ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวแบบผสม หลังหุ้นเทคฯโดนเทขายยับ

โดย Oliver Gray

Investing.com - ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ มีทิศทางหลากหลายในช่วงต้นของวันศุกร์ หลังจากที่ตลาดอยู่ในแดนลบก่อนหน้านี้ เนื่องจากนักลงทุนดึงเงินออกจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐออกแถลงในวันพุธ โดยประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคการระบาดใหญ่และ ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งภายในปี 2565

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลงเล็กน้อย 29.79 จุด หรือ 0.08% สู่ 35,897.64 S&P 500 ร่วง 41.18 จุดหรือ 0.87% ที่ 4,668.67 ในขณะที่ Nasdaq Composite ร่วงลง 385.15 จุดหรือ 2.47% มาที่ 15180.43 โดยทำผลงานได้แย่ที่สุดในรอบ 3 เดือน

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดาวโจนส์ 30 เพิ่มขึ้น 0.03%, สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 เพิ่มขึ้น 0.07% ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าNasdaq 100 ลดลง 0.18%

ในบรรดาหุ้นที่น่าจับตา บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ร่วงลง โดย Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 2.56%

Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 2.91%

Apple (NASDAQ:AAPL) Inc (NASDAQ:{ {6408|AAPL}}) ร่วงลง 3.93% และ

Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ร่วง 1.36%

หุ้นโซเชียลมีเดียร่วงลง นำโดย Meta Platforms Inc (NASDAQ:FB) ลดลง 1.98%

Twitter Inc (NYSE:TWTR) ร่วง 2.13%

Adobe (NASDAQ:ADBE) ร่วง 10.19% หลังจากคาดการณ์ล่วงหน้าของบริษัทออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ผู้ผลิตชิปร่วงด้วย NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ลดลง 6.8% และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) ลดลง 5.37%

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปิดด้วยสีแดง โดย Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ลดลง 5.03%, Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ตกลง 5.33% และ Lucid Group Inc (NASDAQ:{ {1166456|LCID}}) ลดลง 1.86%

อย่างไรก็ตาม ธนาคารรายใหญ่ช่วยหนุนตลาดไว้ โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้น 1.56% Bank of America Corp (NYSE:BAC) เพิ่มขึ้น 2.41% Citigroup Inc (NYSE: C) เพิ่มขึ้น 1.38% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) เพิ่มขึ้น 2.78%

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.424%

ในด้านข้อมูลที่นักลงทุนควรจับตา จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก สูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ขณะที่ ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย อยู่ที่ 15.4 ในเดือนธันวาคมจาก 39.0 ในเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่าความคาดหมายที่ 30 เนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวลงลงท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น