ผลการสำรวจใหม่เผยว่า 83% ของเศรษฐียุค Millennial เป็นเจ้าของคริปโต

จากการสำรวจของ CNBC แสดงให้เห็นว่า 83% ของเศรษฐีรุ่นมิลเลนเนียล ต้องการที่จะเพิ่มการถือครองคริปโตในปี 2022Baby Boomers และ Gen X ไม่ได้กระตือรือร้นในการลงทุนคริปโต โดยมีการลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นคนรุ่นมิลเลนเนียลจำนวนมากกำลังเพิ่มมรดก และความมั่งคั่งที่มีอยู่ด้วยคริปโต

CNBC ได้เผยแพร่ผลการสำรวจเศรษฐีและแสดงให้เห็นว่า เศรษฐียุคมิลเลนเนียลถึง 83% ของเป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซี นอกจากนี้ 48% ระบุว่าพวกเขาจะเพิ่มการถือครองในปี 2022 อีกด้วย

การสำรวจได้สอบถามนักลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ และทำให้เราได้รู้ว่า 53% ของนักลงทุนที่มั่งคั่งมีการลงทุนใน crypto โดยมีการถือครองอย่างน้อยสามในสี่ใน bitcoin, ETH หรือ cryptocurrencies อื่น ๆ

ผลการสำรวจบ่งชี้ว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลมุ่งเน้นไปที่ตลาด crypto เมื่อเปรียบเทียบกับนักลงทุนที่มีอายุมากกว่า ซึ่ง CNBC ระบุไว้ในรายงานว่า มีเพียง 4% ของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เท่านั้นที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัล และคน Gen X ยังค่อนข้างลังเลเกี่ยวกับ crypto โดยมากกว่า 75% ไม่ได้มีการถือครองใดๆ

48% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขาจะเพิ่มการถือครอง crypto ในขณะที่มีเพียง 6% เท่านั้นที่กล่าวว่าพวกเขาจะลดการลงทุนในปีหน้า ความเชื่อมั่นทั้งหมดจากรายงานนี้ถือเป็นการมองโลกในแง่ดีต่อตลาด ซึ่งบ่งชี้ว่าปี 2022 อาจเป็นปีที่แข็งแกร่งสำหรับคริปโตต่อไป

คนรุ่นมิลเลนเนียลส่วนใหญ่สนใจในคริปโต

รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า คนรุ่นมิลเลนเนียลสนใจในสกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคนรุ่นนี้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและมีวัฒนธรรมการลงทุนที่แตกต่างกัน ในทางกลับกัน คนรุ่นเก่า โดยเฉพาะเบบี้บูมเมอร์ ต่างประสบปัญหาในการยอมรับสกุลเงินดิจิทัล

ตลาดคริปโตเคอเรนซีเติบโตขึ้นในหมู่นักลงทุนรายย่อยและสถาบัน และดูเหมือนว่านักลงทุนรุ่นใหม่จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มการยอมรับและมูลค่าที่เพิ่มขึ้น

คนรุ่นมิลเลนเนียลสนใจบิทคอยน์มากกว่าตลาดที่อยู่อาศัย รายงาน CNBC ฉบับอื่นเมื่อต้นปีนี้แสดงให้เห็นว่า 47% ของเศรษฐียุคมิลเลนเนียลมีความมั่งคั่งอย่างน้อย 25% ใน cryptocurrencies

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ