简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ เพื่อสนับสนุน และ ส่งเสริมให้เกิดการนำตัวเหรียญดิจิทัลไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ เพื่อสนับสนุน และ ส่งเสริมให้เกิดการนำตัวเหรียญดิจิทัลไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้น หวังดึงเศรษฐีคริปโตเข้าประเทศ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปกว่า 80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเกิดโรคระบาด COVID-19
ผู้ว่าฯททท.ผุดไอเดียเศรษฐีคริปโต
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านรายที่สร้างรายได้ให้กับประเทศได้มากถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 แต่ทว่าโรคติดต่อร้ายแรงได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ทางรัฐบาลจำเป็นต้องสั่งปิดประเทศมากกว่า 1 ปี ก่อนที่จะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเล็งเห็นถึงผลกระทบร้ายแรงที่เกิดขึ้น จึงได้พยายามร่วมมือกับภาคเอกชนหลายแห่งเพื่อมองหาแนวทางที่จะมาชดเชยรายได้กว่า 80% ที่หายไปในช่วงปิดประเทศให้ได้ภายในปี 2023 ซึ่งททท.พยายามหาแนวทางในการช่วยโปรโมตประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การโปรโมตประเทศผ่านดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง รัสเซล โครว์ ที่โพสต์ทวิตเตอร์บรรยายถึงความประทับใจที่มีต่อประเทศไทยจนเกิดเป็นกระแส และสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างมาก เป็นต้น
แต่ทว่าทางด้านผู้ว่ากลับเล็งเห็นถึงอีกหนทางหนึ่งที่สำคัญ นั่นก็คือการเกาะกระแสนิยมจากตลาดการลงทุนทั่วโลกด้วยการดึงดูกลุ่มนักลงทุนถือคริปโตอย่างทิม คุก ให้เข้ามาใช้สกุลเงินดิจิทัลในไทย
ทำไมต้องเจาะกลุ่มนักลงทุนคริปโต?
นายยุทธศักดิ์ได้ออกมาเผยผ่านการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายนว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่กลายเป็นมหาเศรษฐีจากการถือครองเหรียญดิจิทัล และ กลุ่มคนเหล่านี้ก็ต้องการที่จะใช้คริปโตที่พวกเขาหามาได้ในการซื้อสินค้า และ บริการต่าง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน โดยเขาได้กล่าวเสริมว่า
“หากพวกเขาสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลชำระค่าสินค้า และ บริการในประเทศได้โดยที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือ ต้องเผชิญกับค่าภาษีจากทางรัฐบาล ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทางเราอย่างมากเลยทีเดียว”
อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์ดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่บรรดานักท่องเที่ยวจะสามารถเริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ เหรียญสกุลอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้ เนื่องจากประเทศไทยยังไม่ได้ให้การยอมรับว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
ปัจจุบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเตรียมจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นภายในช่วงปีหน้าเพื่อมากำกับดูแลการออกสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ, การสร้าง Wallet ดิจิทัล และ การช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศรูปแบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยล่าสุดทางหน่วยงานกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาหารือร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศ, ธนาคารแห่งประเทศไทย และ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อพัฒนา และ หาแนวทางในการนำสกุลเงินดิจิทัลเข้าใช้ในภายภาคหน้า
นอกจากนี้ททท.ยังได้ตั้งเป้าดึงดูดมหาเศรษฐีชาวต่างชาติให้ได้จำนวน 1 ล้านรายภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 โดยนายยุทธศักดิ์ก็ได้ออกมาเดิมพันว่าหากการร่วมมือกันในครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีจะส่งผลให้มีกลุ่มเศรษฐีที่ลงทุนคริปโตเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยกว่า 10% อย่างแน่นอน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Neex
HFM
VT Markets
Octa
STARTRADER
Vantage
Neex
HFM
VT Markets
Octa
STARTRADER
Vantage
Neex
HFM
VT Markets
Octa
STARTRADER
Vantage
Neex
HFM
VT Markets
Octa
STARTRADER
Vantage