简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในช่วงเวลานี้คงไม่มีสิ่งใดที่จะได้รับความสนใจจากแวดวงต่าง ๆ ได้มากเท่ากับคริปโตเคอเรนซีอีกแล้ว จะเห็
ในช่วงเวลานี้คงไม่มีสิ่งใดที่จะได้รับความสนใจจากแวดวงต่าง ๆ ได้มากเท่ากับคริปโตเคอเรนซีอีกแล้ว จะเห็นได้ว่าหลากหลายประเทศทั่วโลกต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ และ เทคโนโลยีเพื่อนำมารองรับการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลกันเป็นจำนวนมาก ไม้เว้นแม้แต่ประเทศไทยของเราที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BK:BTS) เผยว่าบริษัทกำลังเตรียมผนึกกำลังร่วมกับ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เพิ่มทางเลือกการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการต่าง ๆ ในเครือภายในช่วงต้นปี 2022 ได้แก่ การใช้เหรียญในการชำระค่าบริการธุรกิจโรงแรมในเครือ, การใช้เหรียญเพื่อเติมเงินในบัตรแรบบิทในการชำระค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของ BTS หรือ การชำระราคาสินค้า เป็นต้น
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา“ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. JMART หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานสัมนา Battle Strategy หัวข้อ How ”Digital Tokens Will Sharpen the Ultimate Success of Business ที่ถูกจัดขึ้นโดย SCB และ ข่าวหุ้นธุรกิจ ได้ออกมายอมรับว่าทางบริษัทได้ให้ความสนใจกับระบบนิเวศของระบบขนส่งมวลชนในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศหลายล้านรายด้วยกัน
JFin Coin คืออะไร
JFin Coin หรือ JFIN เป็นสกุลเงินดิจิทัลประเภท Unity coin สัญชาติไทยที่เกิดขึ้นจากบริษัทในกลุ่ม Jaymart ทั้ง 3 แห่ง ต้องการระดมทุนด้วยการเสนอขาย (Initial Coin Offering) ดิจิทัลโทเคน (Digital Token) ผ่านระบบ Blockchain สาธารณะ เพื่อนำไปพัฒนา Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) หรือการให้คนกู้เงิน ‘ดิจิทัล’ ผ่านมือถือ ซึ่งเหรียญดังกล่าวสามารถนำไปใช้ชำระค่าบริการ และ สินค้าต่าง ๆ ในเครือ Jaymart ได้
ล่าสุดราคาเหรียญ JFIN ได้เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น จากระดับราคาที่ 15 บาท ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ก่อนจะเคลื่อนไหวมาอยู่ที่ระดับ 66 บาท ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเหรียญดังกล่าวก็ได้มีแรงไล่ซื้อชุดใหญ่เคลื่อนไหวเข้ามาจนดันให้ราคา JFIN ขึ้นอยู่ในระดับ All Time High ที่ 120 บาท หรือ เพิ่มขึ้นราว 81% ในช่วงเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งถ้าหากนับจากวันที่ 5 พฤศจิกายน โทเคนสกุลนี้ได้ปรับราคาขึ้นมากว่า 700% ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับองค์อย่างมหาศาล
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Jaymart ที่ได้ดำเนินการออกโทเคนดังกล่าวระบุว่าปัจจุบันมี Wallet ที่ใช้ JFIN ได้เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่มีอยู่เพียง 2,000 ใบเป็นจำนวนกว่า 500,000 ใบด้วยกัน จากผลกระทบการเกิด Network Effect นอกจากนี้เขายังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า JFIN ที่ถูกใช้งานเฉพาะในกลุ่ม Jaymart มีอยู่ราว 3 ล้าน JFIN ด้วยกัน ซึ่งได้สร้างยอดขายให้กับทางองค์กรมากกว่า 700 ล้านบาทอีกด้วย
บีทีเอสยอมรับว่าต้องการปรับธุรกิจตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ทางด้านนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงิน BTS ได้ออกมาเผยถึงสาเหตุในการร่วมมือกับบริษัทในเครือ Jaymart เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเขายอมรับว่าตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ธุรกิจขององค์กรก็ตกอยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง และ สร้างความเสียหายพอสมควร ซึ่งทางบริษัทมองว่าควรเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจตามกระแสของโลกที่เปลี่ยนไปอาจจะเป็นเห็นทางรอดขององค์กร โดยเขาได้กล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บีทีเอสก้าวลงมามีบทบาทสำคัญในวงการสกุลเงินดิจิทัลว่า
“เราอยากปรับตัวไปสู่ตลาดไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เรามีฐานแรบบิท 4-5 ล้านคน คาดว่าน่าจะมี 2-3 ล้านคนที่น่าจะเปลี่ยนมาใช้เหรียญเติมเงิน ซึ่งการปรับตัวครั้งนี้ของเราส่วนหนึ่งเป็นผลจากโควิด รวมทั้งพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนแปลงไป”
อ้างอิงจาก The Standard
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Vantage
FXTM
HFM
FP Markets
FOREX.com
IQ Option
Vantage
FXTM
HFM
FP Markets
FOREX.com
IQ Option
Vantage
FXTM
HFM
FP Markets
FOREX.com
IQ Option
Vantage
FXTM
HFM
FP Markets
FOREX.com
IQ Option