简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ: เรียกได้ว่าสะเทือนไปทั้งวงการคริปโต หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBs) ประกาศว่าได้เข้าถือหุ้น 51% ของ Bitkub ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 17,850 ล้านบาท งานนี้ทำเอาชาวเน็ตออกมาดราม่า เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงกรณีดังกล่าว พวกเขาคิดยังไงกันบ้าง เราสรุปมาให้แล้ว!
เรียกได้ว่าสะเทือนไปทั้งวงการคริปโต หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBs) ประกาศว่าได้เข้าถือหุ้น 51% ของ Bitkub ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 17,850 ล้านบาท งานนี้ทำเอาชาวเน็ตออกมาดราม่า เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงกรณีดังกล่าว พวกเขาคิดยังไงกันบ้าง เราสรุปมาให้แล้ว!
1. ดราม่า ‘กังวลเรื่องการจ่ายภาษี’
หลังธนาคารใหญ่เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเทรดของพวกเขา ชาวเน็ตก็กังวลใจว่า SCB นี่มาเพื่อเก็บภาษีรึเปล่า? และเกิดเป็นประเด็นถกกันเรื่องกฎหมายการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% จากกำไรที่ขายคริปโต แต่ทาง Bitkub ก็ไม่รอช้า ออกมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้ว่าความจริงกฎหมายนี้มีมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการบังคับใช้
“สำหรับภาษีนั้น ตามกฎหมายต้องหักกรณีกำไร 15% แต่เนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกำไรหรือขาดทุนจึงยังไม่มีการหักแต่อย่างใด แต่เพื่อป้องกันการเรียกเก็บจากสรพากรย้อนหลังสามารถทำการดาวน์โหลดประวัติเพื่อทำการส่งให้สรรพากรได้ครับ”
ขณะที่เทรดเดอร์คริปโตก็ออกมาแสดงความเห็นไว้ว่า “การหักภาษี 15% นี้ เป็นกฎหมายในประเทศไทย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเล่นแพลตฟอร์มใดของประเทศไทยที่ขึ้นตรงกับ กลต. จะต้องใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่เพียง Bitkub เท่านั้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็นการปูฐานให้ทุนของ Bitkub หนาแน่นขึ้นเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสิ่งใหม่ แต่เมื่อนักเทรดจะย้ายไปซื้อขายในแพลตฟอร์มของต่างประเทศ ทางรัฐบาลก็อาจจะออกกฎหมายใหม่มาขัดขวางได้”
จากความกังวัลนี้ก็ทำให้เทรดเดอร์เริ่มหาลู่ทางย้ายไปเทรดกับ Exchange คริปโตในต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นทางเลือกนึงที่สามารถทำได้ในขณะนี้ แต่ก็ต้องเลือก Exchange ที่มีมาตรฐาน มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเท่านั้น ไม่งั้นจะกังวัลใจหนักกว่าเดิมแน่ หากไม่รู้จะย้ายไป Exchange ไหนก็ไปดูบนแอป WikiBit ได้ เค้ามีข้อมูลเชิงลึกของ Exchange ทั่วโลกแหละ โหลดฟรีด้วยนะ!
2. ดราม่า ‘Bitkub โดนบังคับขายรึเปล่า’
เนื่องจาก Bitkub ยอมขายหุ้นไปกว่า 51% ทำให้ชาวเน็ตคอมเมนท์กันว่า ทำไมถึงยอมขายไปมากมายขนาดนี้ SCBs แทบจะเป็นเจ้าของ Bitkub อยู่แล้ว ซึ่งขัดกับวิสัยทัศน์ที่เจ้าของ Bitkub เคยกล่าวไว้ว่าภาคภูมิใจในความ decentralized มาก งานนี้ชาวเน็ตก็สงสัยว่าคุณท็อปโดนกดกันจากเบื้องหลังใด ๆ หรือไม่?
ขณะที่ทาง Bitkub ก็ไม่ปล่อยให้ดราม่านาน ออกมาเคลียร์ว่า “เนื่องจากเรามีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่และการที่ SCBs ได้มาถือหุ้น 51% เราจะได้รับคำแนะนำที่ดี แนวทางการปฏิบัติงาน การให้บริการ ที่สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างและมีความเข้าใจความหลากหลายของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นจากประสบการณ์ในการให้บริการทางการเงินของ SCB ที่มีมาอย่างยาวนาน ทาง Bitkub กำลังจะได้พาร์ทเนอร์ที่มีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะสร้าง Finance 3.0 แพลตฟอร์มที่ยังคงเป็นของคนไทย ไม่เหมือนกับวงการอื่น ๆ ที่ได้กลายเป็นของต่างชาติไปหมดแล้วครับ”
งานนี้ก็ต้องรอดูว่าอนาคตของ Bitkub จะเป็นอย่างไรต่อไป จะยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างที่หมายใจไว้หรือไม่ ระบบจะยิ่งโปร่งใสมากขึ้นและไวขึ้นอย่างที่กล่าวไว้รึเปล่า? เราก็ต้องเกาะติดสถานการณต่อไป มีอัพเดตอย่างไง WikiBit จะรีบมารายงานแน่นอน
แล้วกลับมาติดตามข่าวสารที่สดใหม่ รวดเร็ว ถึงใจ พร้อมบทความเกร็ดความรู้ในโลกคริปโตแบบนี้ ได้ที่ “WikiBit” แอปนำเสนอข่าวสารวงการคริปโต และพร้อมให้บริการตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน เพียงแค่กดค้นหา ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะขึ้นมาแบบจัดเต็ม ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
IC Markets Global
Vantage
Pepperstone
FXTM
TMGM
IQ Option
IC Markets Global
Vantage
Pepperstone
FXTM
TMGM
IQ Option
IC Markets Global
Vantage
Pepperstone
FXTM
TMGM
IQ Option
IC Markets Global
Vantage
Pepperstone
FXTM
TMGM
IQ Option