简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กฎธรรมชาติข้อหนึ่งที่นักลงทุนในตลาดทุกคนต้องทราบคือทองคำเป็นปรปักษ์กับดอลลาร์สหรัฐเมื่อไหร่ก็ตามที่ดอลลาร์แข็งค่า ทองคำก็จะมีมูลค่าลดลง
กฎธรรมชาติข้อหนึ่งที่นักลงทุนในตลาดทุกคนต้องทราบคือทองคำจะตรงข้ามกันกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อไหร่ก็ตามที่ดอลลาร์แข็งค่า ทองคำก็จะมีมูลค่าลดลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ดูเหมือนกับว่าทองคำและดอลลาร์กลับกอดคออ่อนค่าลงมาพร้อมกัน
ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง 0.27% หลังจากการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อคืนวันพุธ ทั้งๆ ที่การประกาศนั้นคือการเริ่มลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า $15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ถือเป้นข่าวดีที่จะมีการลดซัพพลายของดอลลาร์ลง ทำให้สกุลเงินมีมูลค่ามากขึ้น
แต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือทำไมดอลลาร์สหรัฐถึงอ่อนค่าลงตามราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงไป 1.4% (ซึ่งถือว่าถูกต้องแล้ว) ในขณะที่กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นห้าจุดเบสิส หมายความว่าตอนนี้อัตราผลตอบแทนฯ น่าสนใจมากกว่าดอลลาร์และทองคำแล้วกระนั้นหรือ? พฤติกรรมดังกล่าวยังเกิดขึ้นเรื่อยมาจนถึงเมื่อวาน และในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ กราฟอัตราผลตอบแทนฯ ก็ได้วิ่งลงมาด้วยเช่นกัน
คำถามก็คือพฤติกรรมของราคาทองคำในตอนนี้กำลังบอกอะไรกับนักลงทุน ทั้งๆ ที่อยู่ในภาวะเงินเฟ้อ แต่ทำไมราคาทองคำกลับนิ่งสนิทราวกับเป็นสินทรัพย์ที่ตายแล้ว เพียงแค่ขึ้นยืนเหนือ $1,800 ก็ยังทำได้อย่างยากลำบาก
การวิ่งอยู่ในกรอบขาขึ้นระยะสั้นถือเป็นสิ่งที่ยากลำบากสำหรับทองคำในเวลานี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นครั้งนี้ก่อให้เกิดรูปแบบลิ่มลู่ขึ้น ตามทฤษฎัรูปแบบนี้มักส่งสัญญาณว่าตลาดจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลง หากเชื่อตามตำราก็เท่ากับว่าการกลับขึ้นไปยืนเหนือ $1,800 ในตอนนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ราคาทองคำกำลังทดสอบแนวต้านที่เกิดขึ้นเป็น neckline ของรูปแบบหัวไหล่ ซึ่งไปพาดผ่านพอดีกับเส้นค่าเฉลี่ย 100 สัปดาห์ ยิ่งเพิ่มความยากให้กับฝั่งขาขึ้น และยิ่งทำให้รูปแบบลิ่มลู่ขึ้นมีโอกาสลงตามทฤษฎีได้ง่าย นอกจากนี้ เส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ที่กำลังพยายามลงมาตัดเส้น 100 สัปดาห์ ได้กลายเป็นแนวต้านให้กับขาขึ้นอีกชั้น เท่ากับว่าถ้าจะขึ้นไปยืนเหนือ $1,800 ตอนนี้ต้องผ่านแนวต้านมากถึงสามด่านด้วยกัน
แนวต้านที่เราพูดถึงไปก่อนหน้านี้ ยังไม่นับด่านสุดท้ายที่เป็นเส้นเทรนด์ไลน์ขาลง ที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนสิงหาคมปี 2020 หากไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำรอบนี้จะลงไปทดสอบแนวรับ $1,600 ณ ตรงนั้น มีแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์รอนักลงทุนอยู่
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาทองคำสร้างรูปแบบขาลงสำเร็จ หรือก็คือการสร้างราคาปิดที่อยู่ต่ำกว่า $1,700 จากนั้นรอราคาวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้าน ก่อนที่จะวางคำสั่งขายตามลงไป
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอจนกว่าราคาปิดต่ำกว่า $1,750 จากนั้นรอราคาวิ่งกลับขึ้นมา แต่ไม่รอแท่งเทียนยืนยัน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันที หรืออาจจะรอให้ราคาหลุดกรอบขาขึ้นสีเขียวลงมา โดยไม่ต้องรอให้มีการปิดแท่งเกิดขึ้น
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $1,780
- Stop-Loss: $1,800
- ความเสี่ยง: $20
- เป้าหมายในการทำกำไร:$1,720
- ผลตอบแทน: $60
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FBS
VT Markets
HFM
FOREX.com
STARTRADER
EC Markets
FBS
VT Markets
HFM
FOREX.com
STARTRADER
EC Markets
FBS
VT Markets
HFM
FOREX.com
STARTRADER
EC Markets
FBS
VT Markets
HFM
FOREX.com
STARTRADER
EC Markets