简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(27ต.ค.)ดิ่งลง 1.99 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 100,000 บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อีไอเอ เปิดเผยด้วยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาด ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ราคาน้ำมันอ่อนตัวในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย เนื่องจากไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงให้นักลงทุนระมัดระวังตัว
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดีที่เอเชีย ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูง เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อาจกระตุ้นให้มีการปล่อยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเชิงพาณิชย์ออกมามากขึ้นเพื่อกดดันราคา
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันศุกร์ในเอเชีย โดยกลับมาขาดทุนอีกครั้งหลังจาก OPEC+) เพิกเฉยต่อการเรียกร้องให้เพิ่มอุปทานและเลือกที่จะดำเนินการผลิตต่อด้วยอัตราเท่าเดิม
ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันจันทร์ เนื่องจากการตัดสินใจของ OPEC+ ที่จะเพิ่มการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้เกิดตลาดกระทิง แม้ว่าอุปทานทั่วโลกจะตึงตัวและอัตราเงินเฟ้อจะแย่ลงในแต่ละวัน