S&P 500 ทะยาน หลังขยายเพดานหนี้ สหรัฐรอดผิดนัดชำระหนี้

ดัชนี S&P 500 ปิดสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี เนื่องจากฝ่ายนิติบัญญัติบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มเพดานหนี้และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว กระตุ้นให้นักลงทุนลงเงินในหุ้นเพิ่ม

S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.83% ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1% หรือ 337 จุด ขณะที่ Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.1%

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ของกระทรวงการคลังขึ้นอีก 4 แสน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้จนถึงเดือนธันวาคม วุฒิสภาจะลงคะแนนในข้อตกลงเวลา 20.00 น. ET ในวันพฤหัสบดี

“ข้อตกลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงในระยะสั้น … และช่วยให้พรรคเดโมแครตหันมาโฟกัสไปที่การหาข้อตกลงประนีประนอมกับแพ็คเกจการกระทบยอดหลายล้านล้าน” ดาวิท วากเนอร์ ผู้จัดการพอร์ตของ Aptus Capital Advisors บอกกับ Investing.com ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดี

หุ้นวัฏจักรซึ่งมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับเศรษฐกิจทำให้ราคาขยับสูงขึ้น

สินค้าฟุ่มเฟือยเป็นภาคส่วนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดย Penn National Gaming (NASDAQ:PENN) ปรับตัวขึ้น 5% หลังจากที่บริษัทคาสิโนและการพนันกีฬาได้รับการอนุมัติให้เทคโอเวอร์ theScore บริษัทสื่อกีฬา

ภาคยานยนต์รวมถึง General Motors (NYSE:GM) และ Ford (NYSE:F) ทำผลงานได้ดี ทำให้เกิดแนวโน้มที่ดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวม

หุ้นพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันเริ่มผ่อนคลาย หลังปัญหาเกี่ยวกับอุปทานเริ่มคลายความกังวล โดยสหรัฐกล่าวว่าจะพิจารณานำน้ำมันสำรองฉุกเฉินมาใช้เพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อราคาก๊าซ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวในวงกว้างขึ้นเมื่อวันก่อน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Apple (NASDAQ:AAPL), Microsoft (NASDAQ:MSFT), Amazon.com (NASDAQ:AMZN) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) อยู่ในแดนบวกทั้งหมด

Twitter (NYSE:TWTR) พุ่งขึ้น 4% หลังจากที่มีรายละเอียดแผนการขายเครือข่ายโฆษณาบนมือถือ MoPub ให้กับ AppLovin ผู้พัฒนาเกมบนมือถือในราคา 1.05 พันล้านดอลลาร์

แค่เพียงวันเดียวก่อนประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายน ข้อมูลการเรียกร้องผู้ว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีเกินคาดได้กระตุ้นความสนใจของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน

กรมแรงงานรายงานว่า มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน 326,000 คน ลดลง 38,000 คนจากสัปดาห์ก่อนที่มีการแก้ไขเพิ่มขึ้น 364,000 คน และลดการคาดการณ์สำหรับผู้ยื่นใหม่ 348,000 คน

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ไปที่การฟื้นตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความคาดหวังว่าข้อมูลการจ้างงานรายเดือนจะดีขึ้นในวันศุกร์ ซึ่งอาจให้ไฟเขียวแก่ธนาคารกลางสหรัฐในการเริ่มลดการซื้อพันธบัตรในเดือนหน้า

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสร้างงานได้ 500,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว โดยจะเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม

“นโยบายลดการซื้อพันธบัตรจะเริ่มต้นขึ้นในปีนี้ โดยอัตราดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดนโยบายอย่างเป็นทางการ” แวกเนอร์กล่าวเสริม “ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดขณะนี้คือรายงานการจ้างงานในวันศุกร์ ซึ่งจะทำให้เฟดมีความก้าวร้าวมากขึ้นในการลด QE เพื่อให้สิ้นสุดในช่วงต้นปี 2565 ตามแผน”