ความสามารถในการชำระหนี้ของ China Evergrande เริ่มแผ่ขยายความกังวล

ปัญหาของกลุ่มบริษัท China Evergrande ยังคงอยู่ในพาดหัวข่าวอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังจากที่มีคำเตือนว่าบริษัทอาจผิดนัดชำระหนี้เนื่องจากวิกฤตเงินสดที่เกิดขึ้น โดย S&P Global กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “เราเชื่อว่าปักกิ่งจะเข้ามาแทรกแซงก็ต่อเมื่อความเสียหายมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในวงกว้างทำให้นักพัฒนาอสังหารายใหญ่หลายรายล้มตามกัน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจ”

ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็น 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และเจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังพยายามควบคุมหนี้ส่วนเกินที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรในทรัพย์สิน เนื่องจากการก่อสร้างอาคารใช้เหล็กประมาณหนึ่งในสามของเหล็กที่ผลิตในประเทศจีนจากแร่เหล็กที่นำเข้าจากออสเตรเลียเป็นหลัก ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำและราคาแร่เหล็กในเดือนที่ผ่านมาเริ่มชัดเจนขึ้น

เมื่อหกเดือนที่แล้ว ราคา แร่เหล็ก ซื้อขายที่ระดับ $219.77 ลดลง 45% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยซื้อขายที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน การร่วงลงของราคาในครั้งนี้ได้สะท้อนผ่านผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่สามรายของออสเตรเลีย นำโดยบริษัท Rio Tinto Ltd , BHP Billiton Ltd และ Fortescue Metals Group Ltd โดยขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงห้าวันที่ผ่านมาเนื่องจากราคาหุ้นร่วงลง

แหล่งข่าววงในบอกกับสำนักข่าวการเงิน Bloomberg ว่า Evergrande จะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ให้กู้ธนาคารรายใหญ่ที่สุดสองรายในวันจันทร์ ขณะนี้โฟกัสอยู่ที่ว่าบริษัทจะสามารถจ่ายดอกเบี้ยจำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์สำหรับพันธบัตรในเดือนมีนาคม 2565 ที่จะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีนี้หรือไม่ ตามมาด้วยการชำระดอกเบี้ยครั้งที่สองจำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์สำหรับธนบัตรมีนาคม 2567 จะครบกำหนดในวันที่ 29 กันยายน อย่างไรก็ตาม การจ่ายดอกเบี้ยเหล่านี้เป็นเพียงวิกฤติส่วนเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นน้ำ โดยบริษัทมีหนี้สินรวมประมาณ 3 แสน 5 พันล้านดอลลาร์

เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ AMP Capital กล่าวว่า “ปรากฏการณ์นี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายกระจายในระบบสินเชื่อของจีน ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ๆ และผู้กู้รายอื่น ๆ หาเงินได้ยากขึ้น” ในขณะเดียวกัน ทอมมี่ วู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอ็อกซ์ฟอร์ด และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์เอเชีย หลุยส์ คูจส์ กล่าวในหมายเหตุว่า “ในขณะที่เราคิดว่ารัฐบาลไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นทางออกที่จะเข้ามาอุ้มปัญหา เราคาดว่ารัฐบาลจะเข้ามาดำเนินการปรับโครงสร้างของบริษัท จัดการหนี้เพื่อป้องกันความพยายามในการสร้างหนี้เพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงของระบบ และขัดขวางการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจ”

ในเซสชั่นก่อนหน้านี้ ตัวแทนจาก China Evergrande Group กล่าวว่าได้เจรจาแผนกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนดในวันที่ 23 กันยายนในพันธบัตรต่างประเทศ โดยไม่ชี้แจงรายละเอียดเงื่อนไขของข้อตกลง

อันที่จริง ความสามารถของจีนในการควบคุมภัยพิบัติทางการเงินนั้นกำลังจะถูกทดสอบ และหากล้มเหลว ระบบการเงินที่มีอำนาจต่อรองสูงอาจไม่สามารถรับมือกับผลกระทบได้ โดย Bloomberg รายงานว่าธนาคารในยุโรป UBS และ BNP Paribas จะได้รับผลกระทบโดยตรง

ระบบการเงินของโลกกำลังจับจ้องไปที่วิกฤตการเงินโลกครั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจฟื้นฟูจากการสูญเสียเนื่องจากการระบาดของโควิด-19