简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Gina Lee Investing.com – ราคาหน้าโรงงานของจีนพุ่งขึ้นในเดือนพฤษภาคมสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 20
โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาหน้าโรงงานของจีนพุ่งขึ้นในเดือนพฤษภาคมสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 โดยได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และราคาผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน แม้จะต่ำกว่าอัตราเร่งที่คาดไว้
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 9.0% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์โดย Investing.com ที่ 8.5% นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 และสูงกว่าการเติบโต 6.8% ในช่วงเดือนก่อนหน้า ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)
NBS กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเพิ่มขึ้นของ PPI ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ แร่เหล็ก และโลหะนอกกลุ่มเหล็กที่พุ่งสูงขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงถ่านหิน เหล็กกล้า แร่เหล็ก และทองแดง พุ่งขึ้นในปี 2021 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์หลังการล็อกดาวน์และสภาพคล่องทั่วโลกที่เพียงพอ
ธนาคารแห่งประชาชนจีน ระบุว่า PPI ของจีนมีแนวโน้มที่จะไต่ระดับต่อไปในไตรมาสที่สองและสาม เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและฐานราคาที่ต่ำลงในปี 2020 ก่อนที่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในปี 2021
ผู้กำหนดนโยบายของจีนให้คำมั่นว่า จะใช้มาตรการควบคุมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยการจัดหาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงการปราบปรามการเก็งกำไรและการกักตุนสินค้า
อย่างไรก็ตาม ราคาผู้ผลิตที่พุ่งสูงขึ้นยังแพ้ราคาผู้บริโภคอยู่
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 1.6% โดย Investing.com แต่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลข 0.9% ในช่วงเดือนก่อนหน้า ส่วนตัวเลขCPI ก็หดตัว 0.2% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าที่ Investing.com คาดการณ์ไว้
Bloomberg Economics ระบุในรายงานว่า ราคาโลหะที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต้นน้ำที่เกี่ยวข้องกับการขุดและการแปรรูปวัตถุดิบเป็นหลัก และมีอิทธิพลเพียงเล็กน้อยต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น เฟอร์นิเจอร์และสิ่งทอ
ในขณะเดียวกัน การแข่งขันระหว่างธุรกิจขนาดเล็กก็ทวีความรุนแรงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซและอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าโรงงานของจีนกำลังรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นแทนที่จะส่งต่อให้ผู้บริโภค
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ