简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เมื่อวันอังคาร(18พ.ค.)เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ที่เริ่มรณรงค์เพื่อกำจัดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ประกาศตั้งแพลทฟอร์มเพื่อให้พลเมืองรายงานโครงการผิดกฏหมายต่างๆ
ในวันเดียวกัน สมาคมในอุตสาหกรรมการเงินของจีน3แห่ง ประกอบด้วย สมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติของจีน สมาคมธนาคารจีน และสมาคมด้านการชำระเงินและหักบัญชีของจีน ออกแถลงการณ์ร่วม สั่งให้บรรดาสถาบันการเงินและแพลตฟอร์มการชำระเงินต่างๆในประเทศ ระงับการดำเนินการธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซีโดยเด็ดขาด แม้ว่าในปัจจุบันนี้ มูลค่าของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ได้รับการยอมรับจากในยุโรปและสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับจีนมองว่าเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ สมาคมทั้ง 3 แห่งของจีนยังเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มาจากการเก็งกำไรสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ไม่สามารถใช้จ่ายในฐานะสกุลเงินปกติได้ในขณะนี้ ทั้งคริปโตเคอร์เรนซีอย่างบิทคอยน์และดอจคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีเสถียรภาพ มีความผันผวนสูงมาก และมีความอ่อนไหวมาก
คำเตือนของสมาคมทั้ง3แห่งมีขึ้นหลังจากตำรวจมณฑลอันฮุย ระบุว่า ทลายเครือข่ายการต้มตุ๋นทางการเงินแบบปิรามิดสกุลเงินดิจิทัลเกี่ยวข้องกับผู้คนประมาณ 2,000 คนและเงินมูลค่ากว่า 200 ล้านหยวน (31 ล้านดอลลาร์)
ทางการจีนห้ามซื้อขายสกุลเงินคริปโตในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2560 เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และสกัดการรั่วไหลของเงินในต่างแดน โดยสมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติของจีน ระบุว่า ราคาสกุลเงินคริปโตทะยานขึ้นและดิ่งลง ซึ่งความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัลส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านทรัพย์สิน และสร้างความปั่นป่วนต่อลำดับขั้นตามปกติของเศรษฐกิจและการเงิน ทั้งยังเตือนว่าการขาดทุนที่เกิดจากการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเป็นภาระของผู้บริโภคเพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากกฎหมายจีน ยังไม่ครอบคลุมการทำธุรกรรมด้วยเงินประเภทนี้
การประกาศแบนคริปโตเคอร์เรนซีของทางการปักกิ่ง มีขึ้นในช่วงที่่ธนาคารกลางจีน เตรียมส่งเสริมดิจิทัลหยวน ที่เปิดให้ทดลองใช้งานในโครงการนำร่องทั่วประเทศ เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้บริโภคในจีนใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่แล้ว แต่ดิจิทัลหยวน จะเปิดทางให้ธนาคารกลางสามารถเก็บข้อมูลและควบคุมการชำระเงินแทนที่บริษัทใหญ่ได้
ขณะที่สถาบันการเงินกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับการเก็งกำไร รัฐบาลจีนก็วิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการบริโภคพลังงานและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการทำเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดยข้อมูลของศูนย์การเงินทางเลือกหรือซีเอเอฟ ที่มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ทุกวันนี้ จีนมีเครือข่ายการทำเหมืองบิทคอยน์ทั่วโลกมากที่สุด และในปี 2562 จีนใช้ไฟฟ้ามากกว่าการใช้ไฟฟ้ารายปีของประเทศอาร์เจนตินา
นอกจากนี้ ผลศึกษาและวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วของกลุ่มนักวิจัยในจีน สหรัฐและสหราชอาณาจักร ประเมินว่า การบริโภคพลังงานของจีนจากการทำเหมืองบิทคอยน์ในปี 2567จะมากกว่าการบริโภคพลังงานโดยรวมของประเทศต่างๆอย่างอิตาลี และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์จะสูงสุดเมื่อเทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปีของสเปน และเนเธอร์แลนด์
ท่าทีในทางลบของทางการจีนต่อคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้ราคาบิทคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์คอยน์เดสก์ เมื่อเวลา 06.00 น.ของวานนี้(20พ.ค.)ปรับตัวลงมากถึง 8.47% เคลื่อนไหวที่ 39,064.68 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 40,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังจาก“เคธี วูด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)อาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์( Ark Investment Management )กล่าวว่า เธอยังคงมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินบิทคอยน์ และคาดว่า ราคาบิทคอยน์จะทะยานขึ้นแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์
เมื่อเวลา 14.57 น.ตามเวลาไทย ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้น 1,713 ดอลลาร์ หรือ 4.46% เคลื่อนไหวที่ 40,103 ดอลลาร์
ซีอีโออาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า หุ้นที่มีความผันผวนสูงถูกเทขายออกมาอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งบิทคอยน์ก็ร่วงลงเช่นกัน โดยล่าสุดดิ่งลงไปอยู่ต่ำกว่า 38,000 ดอลลาร์ แต่บริษัทก็มีสายตาที่กว้างไกลกว่านั้น และมุมมองของบริษัทอยู่เหนือสถานการณ์ดังกล่าว และบริษัทมั่นใจว่าราคาบิทคอยน์จะทะยานขึ้นในวันข้างหน้า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
เป็นที่ถกเถียงไปทั้งโซเชียล เมื่อหนุ่มจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ออกมาตั้งคำถามถึงคนรุ่นใหม่ว่า ทำไมคิดว่าการซื้อคริปโต ถึงดีกว่าซื้อ ที่ดิน ทั้ง ๆ ที่ดินรายได้มั่นคงกว่าคริปโต คุณคิดว่าเพราะอะไร?
อินเดียเตรียมที่จะเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีฉบับใหม่ในรัฐสภา และบรรดานักลงทุนคาดว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจหมายถึงอนาคตของเงินดิจิทัลในอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้
จีนคุมเข้มเงินคริปโต ประกาศให้รัฐวิสาหกิจจีนที่ทำเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัลยุติการดำเนินการดังกล่าว พร้อมกับเตรียมออกบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน เรื่องนี้ส่งผลให้ค่าเงินกลุ่มนี้ร่วงตามกันเป็นแถว
วันนี้เราจะพาไปดูบทเรียนครั้งใหญ่ในโลกคริปโตของนักแสดง Youtuber ชื่อดัง อย่าง ‘หญิงแย้’ เธอได้เคยออกมาเล่าถึงประสบการณ์ความผิดพลาดจนเกือบสูญเงิน 3 ล้านบาทไปกับบิทคอยน์! เรื่องราวเหล่านั้นเป็นอย่างไร และเธอผ่านมาได้ยังไง ไปดูกัน
HFM
Pepperstone
OANDA
Octa
Vantage
FP Markets
HFM
Pepperstone
OANDA
Octa
Vantage
FP Markets
HFM
Pepperstone
OANDA
Octa
Vantage
FP Markets
HFM
Pepperstone
OANDA
Octa
Vantage
FP Markets