简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ลือกันทั่วตลาด ! ว่าตอนนี้ Ray Dalio กำลังแอบเก็บสะสม Bitcoin อย่างเงียบๆ เป็นส่วนทำให้ราคา Bitcoin ทะลุ All Time High อย่างต่อเนื่องในขณะที่ราคา ทองคำ ไม่วิ่งไปไหนเพราะกองทุนเก็งกำไรที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังแอบขายทองคำและซื้อ Bitcoin ถึงแม้ทาง Ray จะย้ำว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Cryptocurrency หรือ Bitcoin และไม่ได้มีการกล่าวว่าเขากำลังซื้อ Bitcoin แต่อย่างใด
ลือกันทั่วตลาด ! ว่าตอนนี้ Ray Dalio กำลังแอบเก็บสะสม Bitcoin อย่างเงียบๆ เป็นส่วนทำให้ราคา Bitcoin ทะลุ All Time High อย่างต่อเนื่องในขณะที่ราคา ทองคำ ไม่วิ่งไปไหนเพราะกองทุนเก็งกำไรที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังแอบขายทองคำและซื้อ Bitcoin ถึงแม้ทาง Ray จะย้ำว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Cryptocurrency หรือ Bitcoin และไม่ได้มีการกล่าวว่าเขากำลังซื้อ Bitcoin แต่อย่างใด
“สำหรับผมแล้ว Bitcoin ดูเหมือนเป็นทางเลือกระยะยาวสำหรับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งผมจะสามารถใส่เงินจำนวนหนึ่งเข้าไปได้ โดยที่ผมจะไม่เสียดายหากต้องเสียเงินก้อนนี้ไป 80% ผมหวังว่ากองทุน Bridgewater จะเสนอกองทุน alt-cash (หรือกองทุนที่มีทางเลือกเป็น Bitcoin) เพื่อจัดการกับการที่ค่าเงินกำลังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ซึ่งทางเรามองว่ากำลังเป็นความเสี่ยงและโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่ง” Ray กล่าว
เช่นเดียวกันกับทาง Tesla คงไม่มีบริษัทหรือกองทุนใหญ่ๆไหนออกมาประกาศโต้งๆหรอกว่าพวกเขากำลังจะเข้าซื้อ Bitcoin ส่วนมากเราจะได้ยินหลังจากพวกเขาซื้อของเก็บครบแล้ว และจึงมารายงานใน SEC Filing หรือเหมือนรายงาน กลต.
Ray Dalio เป็นผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates กองทุนเก็งกำไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าทางกองทุนจะเปลี่ยนทองคำมาถือเป็น Bitcoin จริงๆจะมีเงินไหลเข้ามาในตลาด Crypto มากแค่ไหน และจะยิ่งเกิด Network Effect ให้คนวิ่งเข้ามาในตลาดนี้ตามมากขึ้นเพียงใด
ทองคำกำลังตกเป็นเหยื่อของตลาด Bitcoin ที่กำลังเติบโตขึ้น
จุดนึงที่น่าสังเกตุคือตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากมีเหล่ากองทุนสถาบันออกมารายงานว่าพวกเขาเริ่มที่จะเข้ามาลงทุนใน Bitcoin กันมากขึ้นแล้วนั้น เทรนด์ราคาของทองคำและ Bitcoin นั้นก็กำลังสวนทางกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วระหว่างที่ราคา Bitcoin กำลังไต่สูงขึ้นตั้งแต่ 11,000 เหรียญจนขึ้นมาที่ 47,000 เหรียญในเวลานี้ หรือบวกขึ้นมากว่า +430% ในเวลาเดียวกันนั้นราคาทองคำกลับปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาราคาทองคำได้ไล่ลงมาจาก 2,000 เหรียญต่อออนซ์ ลงมาเหลือเพียง 18,000 เหรียญต่อออนซ์ หรือปรับตัวลดลงมา -10% แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน
ทำไมเป้าหมายราคา Bitcoin ถึงต้องเป็น 500,000 เหรียญ ถ้านักลงทุนทองคำต่างย้ายเงินเข้ามาใน Bitcoin กันมากขึ้น ? ถ้า Bitcoin สามารถกลายเป็นทองคำ 2.0 ได้จริงๆ และมีเงินจากตลาดทองคำไหลเข้ามาใน Bitcoin มากขึ้นเรื่อยๆ ราคาของ Bitcoin นั้นยังจะสามารถขึ้นจากราคาปัจจุบันได้กว่า 10-14 เท่า เราลองมาคำนวนกันแบบคร่าวๆนะครับ ทุกวันนี้ตลาดทองคำมีมูลค่ารวม (Market Cap) อยู่ที่ 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (300 ล้านล้านบาท) ในขณะที่ถึงแม้หลายท่านจะคิดว่าราคา Bitcoin นั้นแพงแล้ว แต่มูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin นั้นยังอยู่ที่เพียง 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
ทำให้หากเงินจากทางไหลเข้ามาใน Bitcoin จริงๆ จะยังทำให้ตลาด Bitcoin โตขั้นไปได้อีก 14 เท่า หรือทำให้ราคา Bitcoin ทะลุระดับ 500,000 เหรียญได้นั้นเอง และด้วยปริมาณ Bitcoin ในโลกที่โดนลิมิทอยู่ที่เพียง 21 ล้านเหรียญบนโลกเท่านั้นทำให้เลขการคำนวนนี้ยิ่งชัดเจน และนี่คือสมมติฐานที่ Bitcoin จะมาแทนที่ทองคำเท่านั้น แต่ถ้า Bitcoin สามารถกลางมาเป็นเงินหรือสื่อกลางที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ราคาก็ยังสามารถไต่สูงไปมากกว่านี้ได้อีกเยอะ
ขอขอบคุณบทความโดยเพจ ทันโลกกับTraderKP
เคยตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex ของคุณบ้างไหม บางทีใบอนุญาตโบรกเกอร์ของคุณอาจจะเพิ่งถูกถอดไปก็เป็นได้ และโบรกเกอร์ของคุณกลายเป็นโบรกเกอร์เถื่อน เมื่อโบรกเกอร์ล้มละลายหรือโกงเงินคุณจะไม่ได้รับเงินชดเชยใดใดเลย ตรวจสอบตอนนี้เลยโดยโหลดแอพ WikiFX มาตรวจสอบ!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทวิเคราะห์บิตคอยน์