ไบเดน, มอร์แกนสแตนลีย์, ผลประกอบการ 3 สิ่งที่ต้องจับตา

โดย Christiana Sciaudone

Investing.com - ชาวอเมริกันกำลังนับถอยหลัง อีกไม่กี่ชั่วโมง รอประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมรับตำแหน่งผู้นำของโลกเสรี (หรือครั้งหนึ่งเคยเป็นโลกเสรี)

ตลาดมองในแง่ดีว่าแนวโน้มเป็นปัจจัยบวก ผลักดันให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงานสูงขึ้น และแน่นอนว่ายังมีการพูดคุยที่กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ในประเด็นนี้: เจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ เข้ารับตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติในสภาคองเกรส “ดำเนินการครั้งใหญ่” สนับสนุนการกระตุ้นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

มิทช์ แมคคอนเนลล์ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภา กล่าวว่า กลุ่มคนที่โจมตีหน่วยงานของรัฐสหรัฐฯเมื่อต้นเดือนนี้ได้รับการยุยงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีฟ้องร้องอีกครั้ง

และนี่คือ 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดที่นักลงทุนควรรู้

1. ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 46

โจ ไบเดนเริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 และตลาดอาจยินดีกับความเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการดำเนินการในช่วงสองสามวันแรก โดยไม่ต้องพูดถึงแผนบรรเทาทุกข์การระบาดใหญ่มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่ประกาศไว้แล้วว่าจะทำก่อนหน้านี้

2. มอร์แกนสแตนลีย์

ผลการแข่งขันโค้งสุดท้ายก่อนเปิดตลาด Morgan Stanley (NYSE: MS) คาดว่าจะเดินตามคู่แข่งด้วยการประกาศผลประกอบการ นอกจากนี้ให้มองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคาร ว่าจะทำอย่างไรในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง

3. ตัวเลขผลประกอบการอื่น ๆ

นอกจากนี้เราจะได้ตัวเลขจากสินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง Procter & Gamble (NYSE: PG) และ UnitedHealth P&G ที่คาดว่าจะมีกำไร 1.51 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากยอดขาย 19 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งปี UnitedHealth Group Incorporated (NYSE: UNH) ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าปีนี้มีผลกำไรสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากโควิด ฉันทามติเรียกร้องให้มีการปรับ EPS ที่ 2.41 ดอลลาร์ จากรายรับ 65 พันล้านดอลลาร์