简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เปิด "มรดก" ประธาน "ซัมซุง" ผู้ล่วงลับ มหาศาลแค่ไหน เมื่อทายาทอาจต้องจ่ายภาษีอย่างน้อย 3 แสนล้านบาท!
ลี คุน-ฮี บุคคลที่รวยที่สุดในเกาหลีใต้และประธานบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กลุ่มธุรกิจที่บริหารโดยครอบครัวหรือแชโบลรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ถึงแก่กรรมเมื่อเช้าวันนี้ (25 ต.ค.) หลังจากต่อสู้กับโรคหัวใจในโรงพยาบาลมานาน 6 ปีเต็ม
ลีเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2485 ที่เขตอุยรยอง ในจังหวัดคย็องซังใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เป็นบุตรคนที่ 3 ของ ลี บยอง-ชอล ผู้ก่อตั้งอาณาจักรซัมซุง ลี คุน-ฮี เข้าทำงานที่ซัมซุง เมื่อปี 2511 และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธาน เมื่อเดือน ธ.ค. 2530
ลี ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลลี เป็นผู้นำพาซัมซุงเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลก โดยภายใต้การนำของเขา ซัมซุงก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและชิพความจำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และรายได้รวมของบริษัทในปัจจุบันเท่ากับ 1 ใน 5 ของจีดีพีของเกาหลีใต้และมีสินทรัพย์สินราว 3.75 แสนล้านดอลลาร์
ธุรกิจของกลุ่มซัมซุงแตกย่อยออกไปหลากหลายตั้งแต่ธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์ ประกันภัยไปจนถึงอู่ต่อเรือ และการก่อสร้าง
“นายลีเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ที่แท้จริงที่เปลี่ยนแปลงบริษัทซัมซุงให้กลายเป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับแนวหน้าของโลก และขับเคลื่อนบริษัทระดับท้องถิ่นให้เป็นบริษัทที่ทรงอิทธิพลในระดับโลก มรดกที่เขาสร้างไว้จะคงอยู่ตลอดไป”แถลงการณ์ไว้อาลัยของซัมซุงระบุ
ถึงแม้คำว่า “มรดก” ในแถลงการณ์ของซัมซุงนั้นหมายถึง ผลงานการบริหารและความรุ่งเรืองที่ลีทิ้งไว้ให้ผู้บริหารบริษัทรุ่นต่อไป แต่หลายคนน่าจะอยากทราบว่า “มรดกที่เป็นทรัพย์สินของลี มากมายขนาดไหน” มากกว่า
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส คาดว่า ลี มีมูลค่าทรัพย์สิน 20,900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.54 แสนล้านบาท ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัท และภาษีมรดกที่ผู้รับมรดกจะต้องจ่ายให้กับรัฐ และด้วยความที่เขามีทรัพย์สินมหาศาล จึงขอแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
หุ้นมั่งคั่งที่สุด
ก่อนถึงแก่กรรม ลีเป็นเศรษฐีหุ้นมูลค่ามั่งคั่งที่สุดในเกาหลีใต้ และมีหุ้นบริษัทจดทะเบียน 4 รายในเครือซัมซุง มูลค่ารวมประมาณ 18.2 ล้านล้านวอน (ประมาณ 5.02 แสนล้านบาท) นับถึงราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (23 ต.ค.)
ข้อมูลจากคณะกรรมการการค้ายุติธรรมเกาหลีใต้ ระบุว่า หุ้นที่ลีถือยังรวมไปถึงหุ้นสามัญของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์4.18% และหุ้นบุริมสิทธิ 0.08% มูลค่ารวมกันประมาณ 15 ล้านล้านวอน
นอกจากนี้ ลียังถือหุ้น 20.76% ในบริษัทซัมซุง ประกันชีวิต มูลค่าราว 2.6 ล้านล้านวอน หุ้น 2.88% ในบริษัทซัมซุง ซีแอนด์ที ซึ่งดำเนินธุรกิจก่อสร้างและเป็นบริษัทโฮลดิ้งโดยพฤตินัยของตระกูลลี มูลค่าราว 5.64 แสนล้านวอน และหุ้น 0.01% ในบริษัทซัมซุง เอสดีเอส ซึ่งดำเนินธุรกิจไอที มูลค่าประมาณ 1.67 ล้านล้านวอน
บ้านพักแพงที่สุด
บ้าน 2 หลังใจกลางกรุงโซลของลี มีราคาแพงที่สุดในบรรดาบ้านพักส่วนบุคคลในเกาหลีใต้ โดยหลังแรกมีขนาดพื้นที่ 1,245.1 ตารางเมตรและอีกหลังมีพื้นที่ 3,422.9 ตารางเมตร
สำนักข่าวยอนฮัป รายงานเมื่อต้นปีนี้ว่า ราคาบ้านของลีทั้ง 2 หลังอยู่ที่ 40,900 ล้านวอน และ 34,200 ล้านวอน
ภาษีมรดกอาน
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อว่า “เก็บภาษีมรดกแพงที่สุดในโลก” โดยใช้ภาษีการรับมรดกและภาษีจากการให้เป็นแบบอัตราก้าวหน้า ซึ่งมีอัตราสูงสุดอยู่ที่ 50%
นอกจากการจัดเก็บภาษีชาวเกาหลีใต้แล้ว รัฐบาลโซลยังใช้มาตรการเดียวกันกับชาวต่างชาติด้วย เพราะถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในอาณาเขตของเกาหลีใต้ ส่วนทรัพย์สินขั้นต่ำที่ได้รับการยกเว้นว่าไม่ต้องเสียภาษีมรดกกำหนดไว้ที่ 500 ล้านวอน (ราว 13.8 ล้านบาท)
ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ ก่อนคิดอัตราภาษีมรดก 50% กับหุ้นจดทะเบียน จะต้องนำส่วนเกินมูลค่าหุ้น 20% มาบวกเพิ่มเพื่อประเมินมูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมที่เสียชีวิต ซึ่งจะอิงจากค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นช่วงปิดตลาดเป็นเวลา 4 เดือนทั้งก่อนและหลังการเสียชีวิตของเจ้าของหุ้นเดิม
หากคำนวณจากมูลค่าหุ้นในปัจจุบัน ภาษีรับมรดกเฉพาะหุ้นที่กล่าวถึงข้างต้นของประธานลี จะมีมูลค่ารวมประมาณ 10.6 ล้านล้านวอน หรือราว 2.92 แสนล้านบาท
ความมั่งคั่งของทายาท
ลี แจ-ยอง บุตรคนโตของลี คุน-ฮีและทายาทซัมซุงโดยพฤตินัย ถือหุ้นในบริษัทลูกจดทะเบียน 6 รายของเครือซัมซุง คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7.2 ล้านล้านวอน (ประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาท) นับถึงราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 23 ต.ค.
ทายาทซัมซุงวัย 52 ปี ถือหุ้น 0.7% ในบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และ 17.3% ในบริษัทซัมซุง ซีแอนด์ที นอกจากนี้ยังถือหุ้น 9.2% ในบริษัทซัมซุง เอสดีเอส หุ้น 1.5% ในบริษัทซัมซุง เอ็นจิเนียริง ซึ่งดำเนินการด้านวิศวกรรม และมีหุ้นไม่ถึง 0.1% ในบริษัทซัมซุง ประกันชีวิตและบริษัทซัมซุง ไฟร์ แอนด์ มารีน ซึ่งดำเนินธุรกิจประกันอัคคีภัยและประกันภัยทางทะเล
ขณะที่บุตรสาวของลี คุน-ฮี 2 คน ได้แก่ ลี บู-จิน วัย 50 ปี ซีอีโอบริษัทโฮเท็ล ชิลลา และ ลี ซอ-ฮยอน วัย 47 ปี ซึ่งบริหารมูลนิธิซัมซุง ต่างถือหุ้นในบริษัทซัมซุง ซีแอนด์ทีและบริษัทซัมซุง เอสดีเอส คนละมูลค่า 1.6 ล้านล้านวอน
ทายาทซัมซุง
ลี แจ-ยอง ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานซัมซุง บริหารอาณาจักรยักษ์ใหญ่นี้มาตั้งแต่ปี 2556 โดยที่ผ่านมา เขาออกงานสำคัญในฐานะตัวแทนซัมซุง ระหว่างรอรับตำแหน่งประธานกลุ่มอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ก่อนบิดาของเขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยซ้ำ
ลีเคยต้อนรับ ปาร์ค กึน เฮ อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือน มิ.ย. 2556 ช่วงที่ปาร์คไปเยือนโรงงานผลิตชิพของซัมซุงในเมืองซีอานของจีน การพบกับผู้นำประเทศครั้งนั้น ถือเป็นการยืนยันต่อสาธารณะว่า เขาจะรับไม้ต่อจากบิดาในการบริหารอาณาจักรซัมซุง
เดือน เม.ย. 2557 ลี ในฐานะรองประธานซัมซุง เข้าร่วมการประชุมกับ บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐในกรุงโซล
หลังจากบิดาเข้ารักษาโรคหัวใจล้มเหลวเมื่อเดือน พ.ค. 2557 บทบาทของลีก็เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
“รองประธานลีเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างองค์กรและธุรกิจของกลุ่มซัมซุงตั้งแต่ปี 2557” เจ้าหน้าที่ซัมซุงคนหนึ่งเผย
ปี 2559 ลีทุ่มเงินลงทุน 9 ล้านล้านวอน ซื้อ “ฮาร์แมน” (Harman) ธุรกิจระบบความบันเทิงในรถของสหรัฐ
ในปีที่แล้ว ระหว่างงานฉลองครบรอบ 50 ปีของมูลนิธิซัมซุง ลีประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ภายใต้ชื่อ “แอคคอมพานี” โดยแจ้งผ่านอีเมลภายในองค์กรถึงพนักงานและเน้นย้ำถึงความพยายามของเขาในการหาตัวกระตุ้นการเติบโตใหม่ให้กับบริษัท
“ธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ), ระบบชิพเซ็ต, 5G และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นธุรกิจใหม่ที่จะพลิกโฉมซัมซุงภายใต้การบริหารของลี แจ-ยอง” ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรายหนึ่งเผย
ปีที่แล้ว ลีประกาศแผนลงทุน 133 ล้านล้านวอนสำหรับธุรกิจชิพประมวลผลในช่วง 10 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ลียังสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั่วโลก เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำอาณาจักรซัมซุงอย่างสง่าผ่าเผย โดยสร้างคอนเนคชั่นกับซีอีโอบริษัทระดับโลก เช่น เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม), โกลด์แมน แซคส์, โคคา-โคลา และโบอิง
ช่วงไม่กี่ปีหลัง ลีเดินหน้าความพยายามในการรักษาคอนเนคชั่นทั่วโลก ด้วยการเดินสายพบปะกับ “แลร์รี เพจ” แห่งกูเกิล, “บิล เกตส์” แห่งไมโครซอฟท์ และ “มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก” แห่งเฟซบุ๊ค
ขณะเดียวกัน ทายาทซัมซุงซึ่งเคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคโอในกรุงโตเกียว ยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นในญี่ปุ่นด้วย
ก่อนหน้านี้ ลีบินไปโตเกียวเพื่อแสวงหาความร่วมมือจากบรรดาพันธมิตรธุรกิจในญี่ปุ่น เพื่อทำข้อตกลงเรื่องการจัดส่งวัสดุผลิตชิพ ซึ่งถูกรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งจำกัดการส่งออกไปเกาหลีใต้ ช่วงที่ 2 ประเทศมีข้อพิพาทการค้าเมื่อปีที่แล้ว
ข้อมูลโดย :Bangkokbiznews
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GO MARKETS
STARTRADER
FP Markets
Vantage
XM
FBS
GO MARKETS
STARTRADER
FP Markets
Vantage
XM
FBS
GO MARKETS
STARTRADER
FP Markets
Vantage
XM
FBS
GO MARKETS
STARTRADER
FP Markets
Vantage
XM
FBS