Time Frame แบบไหนที่เทรดเดอร์คู่ควร

Time Frame หรือ TF ที่เหล่าเทรดเดอร์ชอบเรียกกัน คือ แผนภาพที่ถูดตัดแบ่งตามระยะเวลา เป็นการแบ่งความ

เคลื่อนไหวของราคาออกเป็นช่วงเวลาย่อย เช่น M1, M5, H1, H4, D1, W1 และ MN โดยหลัก ๆ จะแสดงออกมาใน

รูปแท่งเทียน (Candles) หรือ บาร์ (Bars) ใน 1 แท่งเทียนจะแสดงความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะเวลาที่

เทรดเดอร์ได้กำหนดไว้

เทรดเดอร์บางคนอาจยังไม่รู้ว่า M, H, H, D, W และ MN คืออะไรและตัวเลขข้างหลังเกี่ยวอะไรกับ Time Frame แอป WikiFX จะมาอธิบายเกี่ยวกับ Time Frameให้เทรดเดอร์หลาย ๆ คนได้เข้าใจกัน

M ย่อมากจาก Minute (นาที) Time Frame “M1” หมายความว่า กราฟราคาจะแสดงค่าช่วงเวลา 1 นาที เปรียบได้ว่ากราฟแท่งเทียน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 1 นาที

H ย่อมาจาก Hour (ชั่วโมง) Time Frame “H1” หมายความว่า กราฟราคาจะแสดงค่าช่วงเวลา 1 ชั่วโมง เปรียบได้ว่ากราฟแท่งเทียน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 1 ชั่วโมง

D ย่อมาจาก Day (วัน) Time Frame “D1” หมายความว่า กราฟราคาจะแสดงค่าช่วงเวลา 1 วันเปรียบได้ว่ากราฟแท่งเทียน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 1 วัน

W ย่อมาจาก Week (อาทิตย์) Time Frame “W1” หมายความว่า กราฟราคาจะแสดงค่าช่วงเวลา 1 อาทิตย์ เปรียบได้ว่ากราฟแท่งเทียน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 1 อาทิตย์

MN ย่อมากจาก Month (เดือน) Time Frame “MN” หมายความว่า กราฟราคาจะแสดงค่าช่วงเวลา 1 เดือน เปรียบได้ว่ากราฟแท่งเทียน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 1 เดือน

สำหรับตัวเลขที่ต่อจากตัวอักษรข้างหลังนั่นคือ เวลาที่เทรดเดอร์กำหนดให้โปรแกรมแสดงเวลาที่จะทำการซื้อ-ขาย นั่นเอง

รูปแบบของ Time Frame

การเลือกใช้ Time Frame สั้น เทรดเดอร์จะสามารถทำการเทรดได้หลายครั้ง แต่นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์จะต้องมีต้นทุนที่สูง เนื่องจากต้องเลือกใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น ซึ่งต้นทุนการเทรด Time Frame ที่สั้นนั้น สัดส่วนของค่า Spread ต่อระยะวิ่งของราคามีสัดส่วนที่น้อย ทำให้ต้นทุนที่ต้องจ่ายมีจำนวนสูง เมื่อมีต้นทุนที่สูงทำให้กำไรที่ได้รับจึงกลายเป็นเงินทุนซะส่วนใหญ่

ส่วนการเลือกใช้ Time Frame ยาว ถึงแม้จะมีต้นทุนที่ไม่สูงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องจ่ายทุนส่วนอื่น นั่นคือ ค่า Swap เพราะ Swap คือต้นทุนของการเทรดอีกประเภทหนึ่ง เมื่อเทรดเดอร์ถือ position ในระยะยาวจึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่า Swap ที่เกิดขึ้นทุกวันนั่นเอง แต่การใช้ Time Frame ยาวจะทำให้เทรดเดอร์เห็นมุมมองของราคากว้างขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นการเลือก Time Frame เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลายปัจจัยที่กำหนดสถานะกำไรขาดทุนของเทรดเดอร์ได้เลย แต่ถ้าจะให้บอกว่าควรเลือกเทรด Time Frame ไหนดีคงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก เพราะความชอบของแต่ละคนต่างกัน เทรดเดอร์ควรเลือก Time Frame ที่ถนัดกับตนเองและเหมาะสมกลยุทธ์ที่เลือกใช้ในการเทรด Forex

แต่ถึงอย่างไรโบรกเกอร์จะมีการนำเสนอ Time Frame ที่ต่างกัน บางโบรกเกอร์มี Time Frame ที่ละเอียดถึงกราฟรายวินาที เพราะฉะนั้นการเลือกโบรกเกอร์ก็สำคัญต่อการเทรด เทรดเดอร์ควรตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ให้ดีก่อนตัดสินใจเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นสามารถดาวน์โหลดแอป WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex รวมถึงติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Forex ได้