3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (2 เม.ย.)

1. คาดว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะลดลง

ตัวเลขค่าใช้จ่ายล่าสุดจากการสั่งซื้อสินค้าที่มีอายุยืนเป็นที่น่าจับตาในปฏิทินเศรษฐกิจวันนี้

กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (12:30 GMT)

อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของบรรดานักเศรษฐกิจที่รวบรวมโดย Briefing.com คาดว่า ยอดคำสั่งซื้อ สินค้าที่มีอายุสามปีขึ้นไปคาดว่าจะลดลงไป 1.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ในเดือนกุมภาพันธ์โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง คาดว่าจะปรับขึ้น 0.3% ส่วนยอดคำสั่งซื้อ สินค้านอกภาคกลาโหมและไม่รวมเครื่องบิน คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1% เช่นกัน

2. Walgreen เผยผลประกอบการ

บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดในปฏิทินเศรษฐกิจวันนี้คือ Walgreens Boots Alliance (NASDAQ:WBA) ที่เพิ่งเข้าร่วมกับดัชนี Dow Jones Industrial Average เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา

ตามผลสำรวจของบรรดานักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Investing.com บริษัทซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางเภสัชกรรม การค้าปลีกและจัดจำหน่ายคาดว่าจะ รายงาน ผลกำไรเท่ากับ $1.72 ต่อหุ้นในไตรมาสที่สอง ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยที่ $1.73 ต่อหุ้น และคาดว่ารายได้บริษัทจะเพิ่มขึ้น 4.7% เท่ากับ 3.456 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

หุ้นบริษัทเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น ๆ ในดัชนี Dow โดยหุ้นบริษัทเคยดิ่งลงไปถึง 7.4%

3. ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นไปอีกหรือไม่

ข้อมูลน้ำมันล่าสุด จากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาที่มีกำหนดการประกาศวันนี้ หลายฝ่ายต่างเฝ้าจับตาว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นอีกและชะลอแรงซื้อน้ำมันดิบในขณะนี้หรือไม่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริการายงานปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 1.93 ล้านบาร์เรลสำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 22 มีนาคม

เมื่อวานนี้ สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น 2.4% และยืนอยู่ที่ $61.59 ต่อบาร์เรล เนื่องจากข่าวการพลิกฟื้นของตัวเลขภาคการผลิตทั้งจากจีนและสหรัฐฯ ผสมกับแรงกระตุ้นในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงหนุนจากการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันอิหร่าน นายบิจัน นัมดาร์ ซันกาเนห์ ผู้สนับสนุนการยืดเวลาลดกำลังการผลิตออกไปอีก

นายซันกาเนห์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กรุงมอสโควว่า ผมเข้าใจว่าคงไม่มีความยากลำบากอะไรหากจะยืดเวลาขอความร่วมมือออกไปอีก คงจะทำได้โดยง่าย สำหรับการยืดเวลาในข้อตกลงให้นานกว่าเพียงครึ่งปีแรก

ในไตรมาสแรกราคาน้ำมันทะยานขึ้นถึง 33% จากการลดกำลังการผลิตโดยกลุ่มโอเปก+ และการคว่ำบาตรอิหร่านกับเวเนซูเอลา