简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
อัตราการแลกเปลี่ยนยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องทำให้บางสกุลเงินแตะระดับสูงสุด ในขณะที่บางสกุลเงินแตะระดับต่ำสุด แอดเหยี่ยวบอกเลยว่าการเทรด Forex ก็ไม่ต่างจากการนั่งรถไฟเหาะจริงๆนะครับ แล้วนักเทรดเคยสงสัยกันไหมว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่มีความผันผวนเกิดจากอะไร วันนี้แอดเหยี่ยวมีคำตอบ
นักเทรด Forex อาจรู้ว่าสกุลเงินส่วนใหญ่มาพร้อมกับอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว หรือที่นักวิเคราะห์เรียกว่าอัตราที่ยืดหยุ่น ง่ายๆคือ อัตราแลกเปลี่ยนของสินทรัพย์อ้างอิงจะผันผวนตามอุปสงค์ และอุปทานในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
สองปัจจัยหลักที่จะต้องพิจารณาเมื่อเริ่มต้นการเทรด Forex ขณะเดียวกัน ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลในเชิงลบหรือบวกต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
1.อุปทานของสกุลเงิน (Currency Supply)
เป็นตัวกำหนดมูลค่าสกุลเงินที่สามารถซื้อขายได้ เมื่อสินทรัพย์มีอุปทานที่เพิ่มขึ้น มูลค่าของมันก็จะลดลง นักเทรดมือใหม่อาจมองว่าธนาคารกลางมีหน้าที่ควบคุมอุปทานของสกุลเงิน
แต่ในความเป็นจริง มีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายสามารถเพิ่มหรือลดอุปทานได้ นักเทรดบางรายสร้างอุปทานหลอกเพื่อปั่นให้มูลค่าของสินทรัพย์นั้นๆ ลดลง และจะเกิดขึ้นได้เมื่อตลาดอยู่ภายใต้สภาวะขายมากเกินไป
2.อุปสงค์ของสกุลเงิน (Currency Demand)
อุปสงค์เป็นตัวบอกปริมาณของนักเทรดสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อในจังหวะนั้นๆ เราสามารถเห็นอิทธิพลที่ตรงกันข้ามของเครื่องมือและการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ ถ้า Demand เพิ่มขึ้น มูลค่าสินทรัพย์ก็จะยิ่งสูงขึ้นครับ
ปัจจัยเพิ่มเติมทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราผันผวน
คือธนาคารกลาง สามารถแทรกแซงตลาด Forex เพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ทางเศรษฐกิจได้เช่นกัน ปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกก็อาจมีผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบต่อตลาด เช่น สถานการณ์ทางการเมือง ข่าวสารต่างๆ เป็นต้น
อัตราเงินเฟ้อ อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่อัตราเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้สกุลเงินผันผวน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเป็นตัวกำหนดราคาสินค้าและบริการสำหรับประชากร
หนี้ของประเทศ รัฐบาลต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวโครงการใหม่หรือปรับปรุงโครงการที่มีอยู่ วิธีเดียวที่จะได้รับเงินทุนที่จำเป็นคือการยืมเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจย่ำแย่ลง การกระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่เศรษฐกิจที่สูงเกินจริง ในการชำระคืน รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะพิมพ์เงินสดเพิ่มเพิ่มเพื่อชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลง
สรุป
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอาจเป็นผลมาจากการดำเนินการต่างๆ ที่ดำเนินการโดยธนาคารกลางหรือนักเทรด นอกจากนี้ เราควรคำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองโดยรวมด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแทนการวิเคราะห์ทางเทคนิค ยิ่งมีข้อมูลวงในเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศรวม ถึงปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ และอุปทานมากเท่าไหร่ ก็จะสามารถคาดการณ์ความผันผวนของค่าเงินได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก mtrading
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
นับถอยหลังสู่ WikiEXPO Dubai 2024
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญต่ออนาคตของกฎระเบียบทางการเงินและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
จิตวิทยาการเทรด หรือ Mindset คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้กลยุทธ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังต้องเรียนรู้การจัดการอารมณ์ ความกลัว ความโลภ และความอยากเอาชนะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ Rande Howell นักจิตวิทยาการเทรดชื่อดัง แนะนำว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว การควบคุมเสียงวิจารณ์ในใจ และการฝึกสมาธิ ช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดที่ดีต้องบาลานซ์ทั้ง ความฉลาดทางปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพราะการเทรดไม่ใช่แค่การชนะหรือแพ้ แต่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น ที่ต้องอาศัยสติ สมาธิ และวินัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว