简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การประชุม FOMC คืออะไร ? ทำไมนักลงทุนต้องติดตาม
แอดเหยี่ยวเชื่อว่าเทรดเดอร์หลายท่านน่าจะเห็นและได้ยินคำว่าประชุม FOMC กันอยู่บ่อย ๆ แต่อาจจะมีบางท่านที่ยังไม่รู้ว่าการประชุมนี้คืออะไร วันนี้แอดเหยี่ยวเลยนำบทความนี้มาให้ได้อ่านกันครับ ว่า FOMC คืออะไร? แล้วส่งผลยังไงกับนักเทรด?
FOMC (Federal Open Market Committee)หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve System) หรือที่เรียกว่า FED มีหน้าที่ควบคุมนโยบายการเงินภายในประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านการตัดสินใจผ่านการประชุมเป็นประจำตามกำหนดการ (FOMC Meeting)
หน้าที่สำคัญของ FOMC คือการกำหนดนโยบายทางการเงินโดยให้ความสำคัญกับการดำเนินการผ่านตลาดการเงิน (Open Market Operations) ซึ่งเป็นผู้กำหนดและรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยตรง รวมถึงการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ FOMC ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการบริหารจัดการเป้าหมายของอัตราการว่างงานและเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงทำให้การตัดสินใจในการดำเนินนโยบายของ FOMC มีผลกระทบอย่างมากต่อราคาสินทรัพย์และสภาพคล่องในตลาด เช่น การปรับตัวขึ้น-ลงของอัตราผลตอบแทนและราคาตราสารหนี้ การปรับตัวของตลาดหุ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
การสื่อสารของ FOMC ผ่านรายงานการประชุม หรือการให้สัมภาษณ์ของคณะกรรมการจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจ เพราะจะเป็นการบอกถึงทิศทางที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือแบบเข้มงวด แนวโน้มการขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย แนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะเวลาอันใกล้ หากขยายตัวจะขยายแบบรวดเร็วหรือชะลอตัวลง แนวโน้มเงินเฟ้อเป็นไปในทิศทางใด
FOMC Meeting คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่หลายคนเรียกว่าการประชุม FED (FED Meeting) ในหนึ่งปีจะมีการกำหนดประชุมทั้งหมด 8 ครั้ง และอาจจะมีการประชุมนอกเหนือจากที่กำหนดหากมีความจำเป็นในการประเมินสภาวะทางเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งจะมีการประกาศกำหนดการของ FOMC Meeting ล่วงหน้าเอาไว้ที่หน้าเว็บไซต์ federalreserve.gov
ซึ่งการประชุมเหล่านี้ คณะกรรมการจะทบทวนภาวะเศรษฐกิจและการเงิน กำหนดท่าทีที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน และประเมินความเสี่ยงต่อเป้าหมายระยะยาวในด้านเสถียรภาพราคาและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
และในช่วงที่มีการประชุมของ FOMC ภาวะตลาดการลงทุนมักจะมีความผันผวนจากความไม่แน่นอน และการคาดเดาทิศทางการดำเนินนโยบายของ FED ซึ่งการทราบถึงวันประชุมของ FOMC และกำหนดการประชุมของ FED จะช่วยให้นักลงทุนเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้
ผลกระทบจากการประชุมที่มีต่อตลาดนั้น ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ผันผวนและไม่แน่นอน เพราะการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามมติประชุมแต่ละครั้งนั้นส่งผลต่อตัวแแปรทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ดอกเบี้ยระยะยาว ตลอดจนราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ
ในขณะเดียวกัน เมื่อการประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ย่อมส่งผลต่อตลาด เพราะมูลค่าของเงินลดลง นักลงทุนต่างย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงไปเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยกว่า ทำให้เกิดความผันผวนตามอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แน่นอน
โดยทั่วไปนักลงทุนมักจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและติดตามตัวเลขดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจประกอบการตัดสินใจลงทุน แต่หากนักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวของ FOMC ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์วางแผนการลงทุน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนแปลงวัฏจักรเข้าสู่ระยะเศรษฐกิจฟื้นตัว (Economic Recovery) และ FOMC ได้มีการเริ่มส่งสัญญาณต่อการปรับนโยบายในระยะข้างหน้า นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงรวมถึงเพิ่มโอกาสในการลงทุนจากการลงทุนตามการคาดการณ์ของผลการประชุม
ที่มา : federalreserve.gov
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดเหยี่ยวอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ที่สำคัญอย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
นับถอยหลังสู่ WikiEXPO Dubai 2024
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญต่ออนาคตของกฎระเบียบทางการเงินและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
จิตวิทยาการเทรด หรือ Mindset คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้กลยุทธ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังต้องเรียนรู้การจัดการอารมณ์ ความกลัว ความโลภ และความอยากเอาชนะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ Rande Howell นักจิตวิทยาการเทรดชื่อดัง แนะนำว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว การควบคุมเสียงวิจารณ์ในใจ และการฝึกสมาธิ ช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดที่ดีต้องบาลานซ์ทั้ง ความฉลาดทางปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพราะการเทรดไม่ใช่แค่การชนะหรือแพ้ แต่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น ที่ต้องอาศัยสติ สมาธิ และวินัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
EC Markets
GO MARKETS
HFM
FOREX.com
FXTM
FP Markets
EC Markets
GO MARKETS
HFM
FOREX.com
FXTM
FP Markets
EC Markets
GO MARKETS
HFM
FOREX.com
FXTM
FP Markets
EC Markets
GO MARKETS
HFM
FOREX.com
FXTM
FP Markets