简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กองทุนการเงินระหว่างประเทศ เผย คริปโทเคอร์เรนซีนิยมมากในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการคอร์รัปชันสูง หรือมีการใช้มาตรการควบคุมเงินทุนเข้มงวด
ผลการศึกษาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พบว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ทำธุรกรรมเพื่อการคอร์รัปชัน หรือหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ด้านการควบคุมทางการเงิน อย่างไรก็ตาม IMF ไม่ได้ระบุรายชื่อของแต่ละประเทศโดยตรง
นอกจากนี้ รายงานของ IMF ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่แต่ละประเทศต้องออกมาตรการให้ผู้ใช้งานทำ KYC (Know Your Customer) ก่อนใช้บริการคริปโทเคอร์เรนซี หรือทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งาน ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนของกลุ่มก่อการร้าย โดยในบางประเทศเช่น สหรัฐ ได้มีการออกมาตรการควบคุมดังกล่าวอยู่แล้ว
IMF ระบุว่า ทุกภาคส่วนควรให้ความสนใจกับผลลัพธ์ของการศึกษาครั้งนี้ แต่ต้องตีความด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามมีจำนวนไม่มาก และอาจมีความผันผวนของคุณภาพข้อมูล
รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยรวบรวมข้อมูลพื้นฐานด้านการใช้งานคริปโทฯ ผ่านผลการสำรวจใน 55 ประเทศ ซึ่งจัดทำโดยสตาทิสตา (Statista) บริษัทสัญชาติเยอรมนี โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามตั้งแต่ 2,000-12,000 คนในแต่ละดินแดน ต่อข้อคำถามที่ว่า ทำไมพวกเขาถึงเลือกถือครองหรือใช้งานทรัพย์สินดิจิทัลในปี 2563
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเปิดเผยรายงานดังกล่าวของ IMF เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หลายประเทศทั่วโลกพยายามอย่างหนักที่จะร่างมาตรการกำกับดูแลตลาดคริปโทฯ ซึ่งปัจจุบันมีมูลสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบัน แต่ละประเทศจะมีรูปแบบการกำกับดูแลและระดับความเข้มงวดที่แตกต่างกันออกไป
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
IC Markets Global
GO MARKETS
OANDA
XM
FBS
HFM
IC Markets Global
GO MARKETS
OANDA
XM
FBS
HFM
IC Markets Global
GO MARKETS
OANDA
XM
FBS
HFM
IC Markets Global
GO MARKETS
OANDA
XM
FBS
HFM