简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:จากการที่ราคาของ Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงนั้นมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเกิดจากการที่ FED มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยและส่งผลให้เมื่อคืนนี้ราคาดอลลาร์ได้ปรับพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
จากการที่ราคาของ Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงนั้นมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเกิดจากการที่ FED มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยและส่งผลให้เมื่อคืนนี้ราคาดอลลาร์ได้ปรับพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามปัจจุบันเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่หลายคนจับตามอง เพราะไม่เพียงแต่สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์เท่านั้นที่มีปัญหานี้ แต่ปัญหาเงินเฟ้อยังผลกระทบต่อสกุลเงินในหลายประเทศเทั่วโลก ซึ่งในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นสิ่งที่นักลงทุนเฝ้าจับตามอง
เนื่องจากการที่ประชุม FOMC นั้นจะเป็นการพูดถึงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อ โดยล่าสุดการประชุม FOMC ในคืนที่ผ่านมาในช่วงเวลาประมาณ ตี 1 ของคืนวันที่ 7 เมษายน กรรมการเฟดหลายคนได้ลงความเห็นว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 0.5% เป็นจำนวนหนึ่งถึงสองครั้ง เพื่อความพยายามจะสกัดกั้นเงินเฟ้อ นอกจากนี้ FED ยังควรจะปรับลดสัดส่วนของงบดุลลงในการประชุมครั้งต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม นาง ลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟดและรองประธานกรรมการ FED ได้กล่าวแถลงในวันอังคารที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดสัดส่วนของงบดุลอย่างเหมาะสมโดยจะเริ่มดำเนินการเพื่อแก้ไขในเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ถือว่าสูงเกินไป
นับตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก FED ขึ้นดอกเบี้ย การที่ธนาคารกลางได้ขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้การมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกของตลาด ในเมื่อของแพงขึ้น เราก็จะใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะสามารถทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาภาวะเงินเฟ้อก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งในด้านของการลงทุนจะสามารถเห็นได้ทั่วไปเลยที่คนเรามักจะลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อให้ได้กำไรมหาศาล
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตลาดคริปโตนั้นเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงจากการผันผวนของราคาที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งในช่วงที่ดอกเบี้ยถูก จะมีความเป็นไปได้ที่คนจะแห่ลงทุนในตลาดคริปโตเพราะถือว่าได้ให้ผลตอบแทนสูง แต่ถ้าหาก FED ขึ้นดอกเบี้ยแล้วการที่จะยังลงทุนในจุดที่มีความเสี่ยงสูงอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ตอบโจทย์เท่าไรนัก โดยเมื่อต้นปีในเดือนมกราคมที่ผ่านมาในช่วงที่ตลาดคริปโตยังเป็นสีเขียวอยู่ก็กลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ FED ประกาศจะขึ้นดอกเบี้ยภายในสองถึงสามเดือนข้างหน้าจากที่คาดการณ์กันว่า FED น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในกลางปี ซึ่งการส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนั้นทำให้ตลาดคริปโตกลายร่วงลงอย่างรุนแรงทั้งกระดานกลายเป็นสีแดงอย่างน่าตกใจ ซึ่งในตอนนั้นราคาของ Bitcoin ได้ร่วงลงจาก $47,000 ไปเป็น $42,000 รวมถึงนักเทรดแบบ Future เองก็ล้างพอร์ตไปหลายคน
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด FED ก็ได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่าการขึ้นดอกเบี้ยนั้นจะไม่ใช่การขึ้นดอกเบี้ยในเรทที่สูง ถึงทำให้ตลาดคริปโตสามารถฟื้นตัวกลับมาเขียวอีกครั้ง สรุป ผู้เขียนต้องบอกเลยว่าดูเหมือนว่าการประกาศของ FED มักจะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตทุกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เองก็เช่นกัน จากรายงานของ FED (FOMC Minutes) นั้นเป็นไปได้ว่า FED อาจประกาศขึ้นดอกเบี้ยโดยประมาณอยู่ที่ 0.5% ซึ่งในส่วนตัวของผู้เขียนมองว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ รวมถึงการจะลดขนาดงบดุลลงอยู่ที่ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นั้นจะทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่กลับกันสิ่งนี้อาจจะเป็นผลเสียต่อตลาดคริปโต อย่างไรก็ตามหากการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีแก่ดอลลาร์ก็มีความเป็นได้ที่จะทำให้ตลาดคริปโตและเหรียญใหญ่ ๆ ฟื้นตัวกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง หากขึ้นดอกเบี้ยจริงอาจจะต้องดูต่อไปว่ากระทบต่อตลาดลงทุนอื่น ๆ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Octa
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
FP Markets
Tickmill
Octa
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
FP Markets
Tickmill
Octa
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
FP Markets
Tickmill
Octa
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
FP Markets
Tickmill